Mask Fancy (เรื่องเสียวๆ)
### ตอนที่ 1 ###
นับตั้งแต่วันนี้ "มาลิน" เด็กสาวที่เพิ่งแตกเนื้อสาวด้วยวัยเพียง 16 ปี ก็จะหมดอิสระภาพลง เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่เธอต้องเข้าพิธีแต่งงานกับนักธุรกิจผู้ร่ำรวยวัย 50 ปีคนหนึ่ง ชายรุ่นพ่อจัดการสู่ขอเธอกับพ่อแม่ หลังจากได้พบกันเพียงแค่ครั้งเดียวในงานเลี้ยงคืนหนึ่งเท่านั้น โดยที่ตัวของมาลินเองยังไม่ทันที่จะได้เรียนรู้ความรักตามประสาวัยสาวของเธอเลย เธอยังไม่เคยได้สัมผัสกับความรัก ความผิดหวัง น้ำตา ความสุข หรืออะไรก็ตามที่เป็นนิยามของความรัก พอแตกเนื้อสาวเธอก็ถูกจับจองทันที ทำให้ดูเหมือนว่าช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเธอได้หายไป
"ดีใจด้วยนะ มาลิน เหมือนหนูตกถังข้าวสารเลย" เพื่อนสาวมาลินเอ่ยแสดงความยินดี
"ใช่ ๆ พ่อแม่เธอจะได้สบายซะทีนะ" เพื่อนสาวอีกคนสมทบ
มาลิน ทำหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจยังรู้สึกไม่ค่อยจะมีความสุขกับการแต่งงานในครั้งนี้นัก ครอบครัวของมาลินจัดว่าเป็นลูกผู้ดีเก่า เธอถูกเลี้ยงดูมาแบบผู้ดี และอาศัยสมบัติที่ปู่ย่าสร้างและสะสมมา ซึ่งกำลังจะหมดไปเรื่อย ๆ ดังนั้น มาลินจึงไม่มีทางเลือกที่จะปฏิเสธการแต่งงานในครั้งนี้ คืนแรกของการแต่งงาน เจ้าบ่าววัยใกล้เกษียณก็หมดแรง และหลับไป ปล่อยให้มาลินแอบนั่งร้องไห้ด้วยความอาลัยต่ออิสระภาพที่ต้องสูญเสียไปอย่างเงียบ ๆ
.....เวลาผ่านไป 18 ปี.....
"แม่ครับ ผมออกไปตีกอล์ฟกับเพื่อน ๆ นะครับ"
เด็กหนุ่มวัย 17 ปี วัยกำลังห้าวตะโกนบอกผู้เป็นแม่พลางคว้าหมวกมาสวมที่หัว
"เดี๋ยว ๆ ลูกโอ้ เดี๋ยวแวะไปส่งแม่ที่สมาคมก่อน" เสียงมาลินนั่นเอง
"เร็ว ๆ หน่อยสิแม่ ผมรีบนา..."
สามีของมาลินนั้นถึงจะแก่ แต่ก็ยังมีฝีมือพอที่จะทำให้มาลินท้องและได้กำเนิดลูกชายไว้เป็นทายาทสืบสกุลขึ้นมาได้
.....ณ สนามกอล์ฟ.....
"ตีไม่ค่อยดีเลยนะวันนี้ เป็นอะไรไปวะ โอ้" ศิวะเพื่อนของโอ้เอ่ยถาม
"มันเซ็ง ๆ ว่ะ ไม่ค่อยมีอารมณ์ตี บอกตามตรงนะ ที่มาตีด้วยวันนี้น่ะ เพราะกูรับปากกับมึงไว้"
โอ้ ลูกชายคนเดียวของมาลินกล่าว พร้อมกับนั่งยอง ๆ กับพื้นหญ้า
"เป็นอะไรไปวะ" ศิวะพูดพลางเข้าไปนั่งยอง ๆ ข้าง ๆ
"ก็ยัยแนนเด็กโรงเรียนข้าง ๆ โรงเรียนเราที่ข้าชอบอยู่น่ะสิวะ มันดันมีแฟนแล้วน่ะสิ"
"อ้าว อย่างนี้ก็แห้วดิ" ศิวะเล่นหน้าเล่นตา
"เออแล้วแฟนแม่นั่นมันใครวะ อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้เห่ยแว่นหนาเตอะที่เดินข้าง ๆ วันนั้นน่ะ"
"เออสิวะ เห็นบอกว่ามันชื่อมะโด่ง"
"ทำไมมึงไม่แย่งมาวะ" ศิวะยุ
"กูไม่อยากเป็นบาปเป็นกรรมโว้ย ลองคิดดูใจเขาใจเรา ถ้าเราโดนบ้างมันจะเจ็บแค่ไหน"
โอ้ กล่าวหนักแน่นพลางลุกขึ้นยืน ศิวะรู้สึกทึ่งในความคิดเพื่อน จึงลุกขึ้นพร้อมกับเอามือตบไหล่ปลอบเพื่อนเบา ๆ
"เอาน่า.. มึงอย่าเซ็งเลย นี่กูมีเรื่องเด็ดจะบอกมึง รับรองมึงหายเซ็ง"
"เรื่องอะไรวะ"
"อะแฮ่ม" ศิวะกะแอม ก่อนที่จะบอกกับเพื่อนเบา ๆ ว่า
"คืนพรุ่งนี้มีงาน Fancy Night ใส่หน้ากากที่โรงแรมไฮโซเกรส"
"ฮื่ย..... แค่เนี้ย!! งานธรรมดา" โอ้ พอได้ฟังก็ส่ายหน้า
"เฮ้ย... อย่าเพิ่งสรุปความเด่ะ มึงฟังให้จบก่อน งานเนี้ยเป็นงานพิเศษและลับเฉพาะ แจกบัตรเข้างานกันเฉพาะสมาชิก VIP เท่านั้น"
"พิเศษไงวะ? "
"ก็ใส่แต่หน้ากากโว๊ย แต่เสื้อผ้าไม่ใส่"
"หา!!! " โอ้ ถึงกับตะลึงตาค้าง
ศิวะได้ทีจึงกล่าวแกมหยอก
"กูรู้ว่ะ ว่ามึงไม่อยากไป มึงเป็นคนดี โอ้ งั้นกูไปคนเดียวนะ" แล้วทำท่าเดินหนี
"หึ ๆ ๆ ถ้ามึงทำงั้นจริง วันนี้มึงก็เดินกลับละกัน.."
.....ณ สมาคมหญิงไฮโซ.....
"อะไรนะ ใส่แต่หน้ากาก ไม่ใส่เสื้อผ้า!!! " มาลินกล่าวออกมาด้วยความตกใจ ราตรีเพื่อนสาวต้องรีบเอามืออุบปาก
"เบา ๆ สิ มาลิน เดี่ยวความก็แตกหมดหรอก"
"บ้าเหรอราตรี ฉันไม่ไปด้วยหรอก งานบ้าบออะไรเนี่ย"
"เธอไม่ไปแล้วจะเสียใจ ปีที่แล้วฉันไปมา สนุกจนลืมไม่ลงเลย" ราตรีกล่าว
"ใช่ ๆ ปีที่แล้วฉันก็ไปกับราตรี ประทับใจมากเลย"
อัญญา เพื่อนสาวอีกคนพูดสมทบ ได้ฟังเพื่อนสาวทั้งสองคนบอกเช่นนั้น มาลินก็ชักเริ่มอยากรู้และหยุดฟังเพื่อนสาวเล่าต่อ
"ฉันน่ะตื่นเต้นมากจนบอกไม่ถูก พูดแล้วยังเสียวหวิว ๆ ไม่หาย มันเป็นงานที่แปลก ทุกคนจะใส่หน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าและตัวตนที่แท้จริงไว้ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นใคร ในนั้นมันทั้งมืด ทั้งสลัวด้วยแสงไฟ คละเคล้าด้วยเพลงเสียงอึกทึก ไม่มีใครสนใจว่าใครจะทำอะไรกัน" ราตรีเล่า
"แล้วพวกเธอไม่อายเหรอ เปลือยอย่างนั้นนะ" มาลินซักไซ้
"แหมเธอก็...นอกจากหน้ากากแล้ว เขาอนุญาตให้ใส่กางเกงในได้อีกหนึ่งตัว แต่ถ้าใครจะถอดโชว์ก็ไม่ว่า แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเปิดหน้ากากเท่านั้นเอง"
อัญญาพูดเสริม ราตรีจึงเล่าต่อ ว่า
"งานนี้ฟรีทุกอย่าง ทั้งเครื่องดื่มทั้งอาหาร คนที่จะเข้าไปได้ต้องมีบัตร ซึ่งเขาจะแจกบัตรให้เฉพาะสมาชิก VIP เท่านั้น เผอิญฉันได้มา 3 ใบ พอดี นี่เห็นว่าเธอเป็นเพื่อนสนิท และเห็นเธอบ่นเซ็งชีวิต เลยอยากจะหาอะไรใหม่ ๆ ก็เธอบ้าง"
มาลินนั่งอึ้ง หน้าแดงร้อนผ่าวด้วยความอาย เพราะไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต
"แล้ว ไปเนี่ยจะต้องมี sex ด้วยหรือเปล่า" มาลินถาม
"อืม.. มันก็แล้วแต่เธอนะ ถ้าเธอพอใจเธอก็ทำได้ ถ้าไม่พอใจก็ปฏิเสธไป"
ราตรีตอบ อัญญาเสริมอีกว่า
"พวกผู้ชายน่ะ จะเตร็ดเตร่ทั่วไปงาน และจะเดินแข็งโด่มาอวดโชว์ให้ผู้หญิงดูต่อหน้า ถ้าเราพอใจก็เลือกเอาได้ หุ่นดี ๆ มาดเท่ๆ มีเยอะแยะ ใหญ่ ยาว หรือแบบไหนก็มี เธอไม่ต้องไปพึ่งความสุขจากสามีแก่ ๆ ไร้สมรรถภาพของเธอหรอก"
"นี่ ไม่ต้องมาตอกย้ำฉันหรอก ถึงผัวฉันจะแก่ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เหมือนพวกเธอที่ผัวตายไปแล้วหรอกน่า ...เออ.. แล้วปีที่แล้วพวกเธอมีอะไรกับผู้ชายพวกนั้นรึปล่าว"
มาลินสงสัย เพื่อนสาวทั้งสองคนมองหน้ากัน ยิ้มแล้วตอบพร้อมกับว่า
"ไม่บอก อยากรู้ก็ตามไปดูเอง อิอิ"
มาลินยังคงลังเล
"ฉันยังไม่ตอบตกลงนะ ขอคิดดูก่อน"
"ได้... ยังมีเวลาให้เธอคิดอีก 1 วัน งานเริ่มคืนพรุ่งนี้นะจ๊ะ ถ้าเปลี่ยนใจก็โทรมา ฉันจะไปรับเธอที่บ้านเอง" ราตรีกล่าวตบท้าย
....................
"เฮ้ย.. จะดีหรือวะ กูอายนะโว้ย"
"อะไรกัน โอ้ ไม่ได้เปลือยหมดซะหน่อย ยังมีปราการด่านสุดท้ายของท่านชายอีกหนึ่งตัว" ศิวะพูดพร้อมกอดอกยืดตัว
"ถึงยังไงกูก็อายว่ะ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ กูไม่เคยโชว์ให้ใครดู" โอ้พูดพร้อมกับลังเลสับสน
"ไม่ถอดไม่ได้เหรอวะ"
"เฮ้ย.. มึงจะบ้าเหรอ อย่างนี้ก็เอาเปรียบคนอื่นน่ะสิ ใครจะยอม มึงเล่นไปดูของคนอื่นซะทั่ว แต่ของตัวเองปิดซะมิดอย่างเงี้ย" ศิวะท้วง
"ก็ถูกของมึงนะ"
"เอาน่า... คนอื่นเขายังไม่อายกัน เดี๋ยวถ้างัย ก่อนเข้างานกูจะพามึงไปดื่มย้อมใจเรียกความกล้าหน่อยละกัน"
"อืม..เข้าท่าดีเหมือนกัน ถึงกูจะอายมาก ถึงมากที่สุด แต่กูก็อยากไปว่ะ อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง"
พูดเสร็จเขาก็ขับรถถึงประตูรั้วหน้าบ้านของศิวะพอดี
"งั้นก็อ่ะ นี่บัตรมึง เก็บไว้ดี ๆ นะโว้ย งานเขาจัดตั้ง 3 คืน ระวังแม่มึงเห็นล่ะ แล้วจะอดไป"
ศิวะยื่นบัตรให้โอ้ พร้อมกับนัดแนะเวลากัน จากนั้น โอ้จึงแวะกลับไปรับแม่ที่สมาคม
....................
"ทำไมวันนี้เลิกเร็วจังลูก" มาลินถามเมื่อเห็นลูกชายขับรถมารับ
"วันนี้ตีไม่ค่อยดีครับ เลยไม่อยากเล่นต่อ" โอ้ตอบตะกุกตะกัก
"แล้วแม่ล่ะครับ ทำไมวันนี้ประชุมเลิกไวจัง"
"อะ.. อ๋อ.. คือ แม่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ เลยออกมาก่อน" มาลินก็ตอบตะกุกตะกักเช่นกัน