Lolita mansion ตอนที่ 10 (เรื่องเสียวๆรูป)
ตอนที่ 10 รีสอร์ทเสียว
ผมเงยหน้ารับกระแสน้ำจากฝักบัวด้วยความสดชื่น หลังจากผ่านการร่วมรักที่ยาวนานกับเมียน้อยๆ ทั้งสามคนที่ซูมิแมนชั่นมาตลอดคืน ตั้งแต่น้องมิซูกิเข้ามาอยู่ในความดูแลของผมอีกคนทำให้ทั้งสามสาวกลายเป็น เพื่อนกันและไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างแยกกันไม่ออก น้องรินะมีสภาพเป็นพี่ใหญ่ของสามสาวไปโดยปริยาย และเข้ามาขลุกอยู่ที่ทาวเฮ้าส์กับน้องโทโทเอะและน้องมิซูกิ จนแทบไม่ได้กลับห้องพัก สามสาวตกแต่งทาวเฮ้าส์เสียใหม่ให้เป็นสไตล์วัยรุ่นแต่ยังปล่อยให้ห้องแก้ผ้า คงสภาพเดิม เพราะถือเป็นที่ระลึกว่าเป็นห้องที่ทั้งสามคนมอบความสาวให้ผมและยึดถือเป็น ข้อปฏิบัติว่าห้องนี้ห้ามใส่เสื้อผ้าเด็ดขาด ทำให้ผมต้องตกกระไดพลอยโจนแก้ผ้าทุกครั้งที่เข้ามา
ผมเช็ดตัวแล้วออกมาจากห้องน้ำ บนเตียงร่างเปล่าเปลือยของน้องรินะ น้องโทโมเอะ และน้องมิซูกินอนกันระเกะระกะอยู่บนเตียง เกมส์รักที่ผ่านมาทั้งคืนทำเอาผมหลั่งออกมาเป็นสิบครั้ง แม้ร่างกายผมจะมีความสามารถพิเศษแต่การอดนอนออกแรงกระเด้าทั้งคืนโดยไม่หยุด ก็ทำเอาผมแทบเดินไม่ไหวไปเหมือนกัน
น้องรินะขดตัวอยู่ด้านซ้ายของเตียงสุดตะแคงหันหลังให้ผม พลูหีถูกสะโพกกดอัดจนปลิ้นออกมาทางด้านรอยหลังคราบน้ำรักที่แห้งกรังเป็นรอย ลงมาตามแก้มก้นนวลเนียน น้องโทโมเอะนอนตะแคงหันหน้ามาทางผม แต่เกยขาขวาขึ้นทำให้ร่องหีกดตัวลงต่ำปล่อยน้ำรักที่หลงเหลือลงกับพื้นเตียง จนเป็นรอยด่างดวงกว้าง แขนน้องโทโมเอะกอดร่างของน้องมิซูกิที่นอนหงายอยู่ด้านขวาสุด ในท่านอนหงายแบบนี้ทำให้เนินหีที่ต่ำกว่าเด็กหญิงทั้วไปของน้องมิซูกิซ่อน ตัวอยู่ด้านล่าง ผมนึกถึงเสียงร้องของน้องมิซูกิเมื่อถึงจุดสุดยอดแล้วต้องยิ้มออกมา เพราะน้องมิซูกิจะส่งเสียงดังลั่นห้องจนผมกลัวว่าเสียงจะดังออกไปข้างนอก น้องโทโมเอะเคยแอบมากระซิบกับผมว่าคืนที่ผมเย็ดน้องมิซูกิเป็นครั้งแรก เสียงร้องของน้องมิซูกิทำเอาน้องโทโมเอะที่นอนอยู่ในห้องตรงข้ามสะดุ้งตื่น และรับรู้ว่าน้องมิซูกิมอบความสาวให้ผมไปแล้ว
ผมไล่ตบสะโพกเมียทั้งสามของผมเรียงตัว"เอ้าสาวๆ ตื่นได้แล้ว ไปแต่งตัวซะ วันนี้ต้องเดินทางไกลนะ.."
สามสาวงังเงียลุกขึ้นมาร้องอุธรณ์กันเซ็งแซ่"ไม่เอา..จานอนต่อ..""ยังง่วงอยู่เลย…""หาววววววว…..ม่ายเอา.."
ผมรีบสำทับ"ใครอาบน้ำแต่งตัวช้าสุด น้าจะจับเย็ดอีกรอบนะ.."
สามสาวร้องกรี๊ดกระโดดผึงขึ้นจากเตียงวิ่งแย่งกันเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้ผมมองตามสะโพกน้อยๆ ที่สั่นไหวตามแรงวิ่งทางด้านหลังด้วยความสุขใจ นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมอแล้วก็ต้องขอบคุณความปราณีของสวรรค์ที่เปิด โอกาสให้ผมชดเชยปมด้อยในวัยเยาว์ด้วยเมียน้อยๆ ทั้ง 7 คนที่ผมแสนรัก
ช่วงนี้น้องซูกุมิ น้องริโฮ น้องทากาโอะ และน้องเทนกะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกับทางโรงเรียนสองอาทิตย์ ทำให้ผมมีเวลามาค้างคืนที่ซูมิแมนชั่นกับน้องรินะ น้องโทโมเอะ และน้องมิซูกิ วันนี้ผมต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจกับคู่ค้าของเจ้าทาเกชิที่ สุราษฎร์ธานี ผมเลยถือโอกาสพักร้อนต่อโดยขอให้เจ้าทาเกชิติดต่อขอที่พักจากคุณสุพจน์ เพื่อนอดีตตำรวจชาวไทยที่เคยร่วมงานผิดกฏหมายกับเจ้าทาเกชิจนต้องออก จากราชการและมาเปิดรีสอร์ทเล็กๆ บนเกาะไม้ขาว ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวรับเฉพาะแขกที่คุ้นเคยกันเท่านั้น เจ้าทาเกชิแจ้งผมว่าคุณสุพจน์เปิดบ้านพักพิเศษไว้ให้ผมพักผ่อน 1 อาทิตย์ ทีแรกผมคิดจะชวนน้องซูกุมิกับเพื่อนๆ ไปพักผ่อนด้วยกัน แต่กลุ่มน้องน้องซูกุมิต้องไปทัศนศึกษาที่ฮาวายกับทางโรงเรียน ผมเลยเปลี่ยนแผนมาชวนกลุ่มน้องรินะแทน ทั้งสามสาวดูจะตื่นเต้นที่จะได้เล่นน้ำทะเล และไปซื้อเสื้อผ้าเตรียมตัวเที่ยวอย่างเต็มที่ น้องรินะบ่นเสียดายที่สามารถพักอยู่กับผมได้แค่สองวัน เพราะต้องรีบกลับมาร่วมการทัศนศึกษาของโรงเรียนสำหรับชั้นของน้องรินะ ที่จะเดินทางไปเชียงใหม่
สามสาวแย่งกันออกจากห้องน้ำโดยน้องโทโมเอะถูกเบียดจนอยู่หลังสุด ผมทำท่าจะจับน้องโทโมเอะมาขึ้นเตียงอีกรอบ แต่นึกขึ้นได้ว่าต้องไปเช็คตั๋วที่สนามบินเลยต้องล้มเลิกความคิดแล้วรีบ กำชับให้สามสาวแต่งตัวพร้อมเดินทาง
ผมซื้อตั๋วเครื่องบินให้น้องรินะ น้องมิซูกิ และน้องโทโมเอะคนละเที่ยวกับผม เนื่องจากผมต้องไปที่สุราษฏร์ธานีก่อน ส่วนน้องทั้งสามให้บินตรงไปที่ภูเก็ตเลยโดยคุณสุพจน์จะส่งคนมารอรับที่สนาม บินแล้วพาไปขึ้นเรือสปีดโบ็ทไปยังที่พักและรอผมที่นั่น
ผมเดินทางถึงสุราษฏร์ธานีพบกับนักธุรกิจในจังหวัดเพื่อตกลงข้อแลกเปลี่ยนให้ เจ้าทาเกชิจนเสร็จสิ้น แล้วรีบขึ้นรถกลับมาที่ภูเก็ต ที่ผมนัดให้เรือสปีดโบ๊ทของรีสอร์ทมารับตอนบ่ายสามโมงเย็น แต่ปรากฏว่าผมมาถึงก่อนเวลาเกือบชั่วโมง เลยต้องเตร็ดเตร่เข้าไปนั่งดื่มเบียร์เย็นๆ ฆ่าเวลาที่ร้านค้าริมหาดที่ไม่มีคนเนื่องจากไม่ใช่เวลาที่เรือประจำจะเข้า เทียบท่า ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์คอยเวลาเงียบๆ แต่ต้องหยุดการอ่านเนื่องจากมีเสียงเอะอะดังขึ้นที่บริเวณศาลารอเรือที่ท่า เทียบเรือชายหาด ผมเงยหน้าขึ้นดูพบว่าเป็นเสียงจากเด็กหนุ่มสามคนขี่มอเตอร์ไซด์วนรอบเด็กนัก เรียนหญิงตัวเล็กๆ 2 คนที่น่าจะเป็นพี่น้องกัน ทั้งสองกุมมือกันแน่น เสียงเย้าแหย่ดังออกมาจากปากวัยรุ่นสามคนไม่ขาดระยะ
"โตแล้วนี่หว่า ใช้ได้แล้วมาเย็ดกับพี่ไหมน้อง"
เสียงเด็กหนุ่มอายุประมาณ 17-18 หยอกเย้าสองเด็กหญิงโดยมีเด็กหนุ่มอีกสองคนหัวเราะเป็นลูกคู่ เด็กหญิงที่ตัวโตกว่ากอดอีกคนหนึ่งไว้แล้วแล้วพยายามหลบเข้าไปที่ศาลา แต่กลุ่มเด็กหนุ่มก็ยังขี่มอเตอร์ไซด์ต้อนหน้าหลังไปมา เด็กหญิงเงยหน้ามองกลุ่มก่อกวนอย่างแค้นเคืองแล้วพูดอะไรออกมาคำหนึ่งซึ่งผม ไม่ได้ยินเนื่องจากอยู่ไกล แต่รถมอเตอร์ไซด์ทั้งสามหยุดลงทันที เด็กหนุ่มที่เย้าแหย่เด็กหญิงก้าวลงมาแล้วกระชากข้อมือเด็กหญิงคนพี่ ที่พยายามสะบัดสุดแรงแต่ไม่สามารถสู้แรงของเด็กหนุ่มได้
"อี่นี่วอน กล้าด่ากูหรือวะ..รู้ไหมว่ากูเป็นใคร..เฮ้ย ลากอีคนพี่นี่ไปเย็ดท้ายสวนเลย…"
เด็กหนุ่มด่าเด็กหญิงที่กำลังดิ้นรน ประโยคท้ายดูจะเป็นคำสั่งให้เพื่อนอีกสองคนช่วยจับเด็กหญิงคนพี่เอาไว้เด็ก หนุ่มสองคนรีบเข้ามาจับข้อมือเด็กหญิงไว้คนละข้าง เสียงคนหนึ่งร้องถาม"พี่อั๋น..เอาอีคนน้องไปด้วยไหม"
เด็กหนุ่มท่าทางเป็นหัวหน้าซึ่งผมรู้แล้วว่าชื่ออั๋น หัวเราะแล้วบอกลูกน้อง
"ไม่เอาโว๊ย อีกสองปีค่อยมาลาก ตอนนี้เอาอีคนพี่ก่อน แม่งเด็กห่าอะไรวะอายุไม่ถึง 10 ขวบแต่น่าเย็ดชิบหาย"
ผมลุกขึ้นยืนเมื่อรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร้านรีบวิ่งเข้ามาหาผมแล้วดึงแขนผมไว้
"นาย..อย่าไปยุ่ง ไอ้อั๋นมันเป็นลูกกำนันเปลวเดี๋ยวนายจะเดือดร้อนนะ"
ผมดึงมือเจ้าของร้านออกจากแขนเดินออกไปที่กลุ่มเด็กหนุ่มอย่างไม่กลัว สามคนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผมโดยเฉพาะเมื่อเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยเพิ่งพ้น แตกพานแบบนี้ ไอ้อั๋นชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นผมเดินตรงมา ชี้หน้าผมแล้วตะโกน"มึงอย่าเสือก…ไปไหนก็ไป…"
"ปล่อยเด็กซะ..แล้วมึงนั่นแหละไสหัวไปให้พ้น"
ผมคำรามเมื่อเห็นเด็กหญิงที่ถูกลูกน้องไอ้อั๋นดึงข้อมือไว้ เป็นเด็กหญิงตัวเล็กที่อายุไม่น่าถึง 10 ปี ใบหน้าสะบัดไปมาพยายามดิ้นรนแต่กัดฟันแน่นโดยไม่ส่งเสียงร้องขอความช่วย เหลือ
ไอ้อั๋นก้าวตรงมาหาผม กระตุกปืนลูกโม่ออกมาชี้ที่หน้าอกผมห่างเพียงไม่ถึงเมตร หัวเราะออกมาแล้วพูดเยาะเย้ย
"คนกรุงเทพฯ ทำตัวเป็นพระเอกโว๊ย…แดกลูกปืนซะดีไหมวะ"
ผมยิ้มในใจให้ไก่อ่อนเบื้องหน้า ไม่มีนักเลงที่ไหนยืนถือปืนลูกโม่ห่างเป้าหมายแค่ไม่ถึงเมตรแบบนี้ มือผมตะปบกุมตัวโม่ด้านบนแล้วกำไว้แน่น เจ้าอั๋นตาเบิกโพลงพยายามเหยี่ยวไกอย่างไร้ประโยชน์เพราะแกนลูกโม่ถูกมือผม กำไว้จนขยับไม่ได้ ผมยิ้มให้เจ้าอั๋นก่อนพลิกตัวอัดศอกเข้ากับจมูกเต็มแรงจนเสียงกระดูกหักดัง ขึ้นมากระทบหูผม ร่างเด็กหนุ่มทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น ปล่อยมือจากปืนลงไปกุมดั้งจมูกที่เลือดกำลังทะลักออกมาเป็นน้ำพุ ผมสะบัดมือให้ปืนกลับมาอยู่ในมือชี้ไปที่สมุนทั้งสองที่ปล่อยมือเด็กหญิง ช้าๆ แล้วถอยหลัง ผมบุ้ยปากไปที่เจ้าอั๋นที่ยังกองอยู่เป็นสัญญานให้มาพาเจ้านายออกไป ทั้งสองคนรีบลนลานมาประคองปีกเจ้าอั๋นพาไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์แล้วบึ่งออกไป สองคันโดยทิ้งคันที่สามเอาไว้อย่างไม่ใยดีผมหันไปดูเด็กหญิงที่วิ่งกลับไป กอดน้องสาวที่สะอึกสะอื้นอยู่แล้วพาไปนั่งในศาลา ผมเดินไปหาเด็กหญิงทั้งสองแล้วถามด้วยความห่วงใย
"เป็นไงบ้างหนู เจ็บที่ไหนบ้างหรือเปล่า"
เด็กหญิงคนพี่สั่นศรีษะ แล้วหันหน้ากลับมาหาผม "ขอบคุณน้าที่ช่วยพิงค์ แต่น้าต้องระวังไอ้อั๋นนะ มันไม่ยอมแน่ๆ"
ผมจ้องใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อพิงค์ตรงหน้าอย่างตะลึง ร่างกายของน้องพิงค์ตรงหน้าผมในชุดสายเดี่ยวสีดำกางเกงขาสั้นถึงโคนขา เป็นร่างกายของเด็กหญิงวัยไม่เกิน 10 ปี ที่ไม่มีหน้าอก และผมบางแบบเด็กที่ยังไม่เจริญวัยเข้าสู่ความเป็นสาว ลำขาสีแทนที่เรียวตรงดูแน่นไปด้วยเนื้อที่เกิดจากการออกกำลังและใช้ชีวิต กลางแจ้งเป็นประจำ แต่ใบหน้าที่กำลังจ้องตาผมไม่ใช่ใบหน้าของเด็กแม้แต่น้อย มันกลับใบหน้าของหญิงสาวที่สวยคมสมบูรณ์ ดวงตากลมโตแต่ส่วนปลายเรียวไปทางหางตาทำให้ดูเป็นดวงตาที่ดุและมีอำนาจ ใบหน้าเรียวรูปไข่ริมฝีปากบางเฉียบผสมกันเป็นใบหน้าที่งดงามเกินอายุ ผมไม่แปลกใจแล้วที่ทำไมเจ้าอั๋นถึงพยายามฉุดน้องพิงค์ เพราะแม้แต่ผมเองยังยอมรับว่าถูกกระตุ้นจากความแตกต่างระหว่างร่างกายกับใบ หน้าของน้องพิงค์จนอารมณ์เริ่มปั่นป่วนเล็กน้อย ผมต้องพยายามสะกดใจแล้วถามน้องพิงค์ต่อ
"ไม่ต้องห่วงน้าหรอก ว่าแต่หนูพิงค์บ้านอยู่ไหนล่ะ จะให้น้าไปส่งไหม.."
เด็กหญิงสั่นหน้า
"พิงค์กับน้องอิงค์มารอเรือกลับบ้าน เดี๋ยวก็มาแล้วน้าไม่ต้องห่วงพิงค์หรอก พิงค์ห่วงน้ามากกว่า ไอ้อั๋นมันต้องตามพรรคพวกกลับมาหาน้าแน่ๆ แถวนี้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับมันหรอก พิงค์ว่าน้ารีบกลับกรุงเทพดีกว่านะ"
ผมหัวเราะกับท่าทางแก่แดดของเด็กหญิง
"น้ายังไม่กลับหรอก น้าก็รอเรือจะไปที่เกาะไม้ขาว อาทิตย์หน้าถึงจะกลับ.."
น้องพิงค์ตาโต ยิ้มออกมาเต็มที่ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นดูน่ารักยิ่งขึ้น"น้าจะไปพักที่บ้านพิงค์เหรอ.."
"บ้าน..." ผมทวนคำงงๆน้องพิงค์พยักหน้า
"พิงค์กับอิงค์เป็นลูกคุณพ่อสุพจน์ เจ้าของเกาะไม้ขาว วันนี้คุณพ่อบอกว่าจะมีแขกพิเศษมาพักต้องส่งเรือมารับ พิงค์กับอิงค์เลยแอบขึ้นเรือมาเที่ยวที่ฝั่ง ถ้าไม่เจอน้า พิงค์แย่แน่เลย…อ้อ น้องอิงค์ขอบคุณคุณน้าด้วยสิ"
เด็กหญิงสั่งการน้องสาวที่ก้มหน้างุดๆ อยู่ น้องอิงค์เงยหน้ามองผมยกมือไหว้แล้วกล่าวขอบคุณเบาๆ น้องอิงค์อายุไม่น่าจะเกิน 8 ขวบ แต่งกายแบบเดียวกัน แต่ใบหน้าของน้องอิงค์แตกต่างจากน้องพิงค์อย่างสิ้นเชิงคือเป็นใบหน้ากลม แป้นน่ารักแบบเด็กหญิงทั่วไป ไม่มีลักษณะที่แปลกตาน่าสนใจเหมือนน้องพิงค์เสียงน้องพิงค์ตะโกนลั่นขึ้น" เรือมาแล้ว"…
เรือสปีดโบ๊ทลำกระทัดรัดฝ่าคลื่นเข้ามาที่หาดอย่างรวดเร็ว คุณสุพจน์มารับผมด้วยตนเองและรีบทักทายทำความรู้จัก คุณสุพจน์อายุประมาณ 45 ปีรูปร่างแข็งแรงตามแบบฉบับตำรวจเก่า พูดจาเปิดเผยแบบนักเลงซึ่งเข้ากันได้ดีกับนิสัยของผม ไม่ช้าผมกับคุณสุพจน์ก็คุยกันสนิทสนมราวกับรู้จักกันมานาน แต่ผมไม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์เรื่องไอ้อั๋นเพราะไม่อยากให้คุณสุพจน์ไม่สบาย ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ผมถามถึงเมียทั้งสามของผม โดยบอกว่าเป็นน้องสาวกับเพื่อนๆ ติดมาพักผ่อนด้วย คุณสุพจน์ก็แจ้งให้ทราบว่าทั้งสามคนมาถึงเรียบร้อยแล้ว ระหว่างการเดินทางน้องพิงค์กับน้องอิงค์เข้ามาพุดคุยกับผมอย่างสนิทสนม ทำให้ผมรู้ว่าเด็กทั้งสองพักอยู่กับน้องสาวคุณสุพจน์ที่กรุงเทพเพื่อเรียน หนังสือที่โรงเรียนสาธิตจุฬา แต่กลับมาพักอยู่กับพ่อในห้วงปิดเทอม
เรือมาถึงรีสอร์ทเกือบสามโมงครึ่ง น้องพิงค์กับน้องอิงค์ที่นั่งคุยกับผมมาตลอดทางรีบกระโดดลงจากเรือแล้ววิ่ง ขึ้นหาดกลับบ้าน ผมมองตามร่างน้องพิงค์ที่ห่างออกไปด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกแต่ก็พยายามระงับ จิตใจหันมาให้ความสนใจกับภาพของรีสอร์ทที่ล้อมรอบ ผมสูดอากาศบริสุทธิ์ด้วยความรู้สึกประทับใจ รีสอร์ทไม้ขาวตั้งอยู่รอบเวิ้งอ่าวส่วนตัวขนาดเล็กน้ำทะเลใสแจ๋ว อาคารทั้งหมดซ่อนตัวอยู่กับต้นไม่ผ่านการตกแต่งที่กลมกลืนกับธรรมชาติ คุณสุพจน์ชี้ให้ดูบ้านพักของผมที่ตั้งอยู่บนเชิงผาด้านบนเป็นส่วนตัวแยกจาก ห้องพักอื่นๆ ที่มีเพียง 8 หลัง คุณสุพจน์บอกว่าปกติห้องพักจะเต็มหมดตลอดปีทั้งที่อัตราค่าเช่าแพงมาก เนื่องจากส่วนใหญ่คนทีเคยมาพักแล้วมักจะประทับใจและกลับมาพักผ่อนเป็นประจำ
ผมรับกุญแจห้องพักแล้วขอตัวคุณสุพจน์แยกขึ้นมาที่ห้องพักซึ่งน้องทั้งสามของ ผมรออยู่ในห้อง ผมเดินไปที่ห้องพักค่อยๆ ไขกุญแจเปิดประตูตั้งใจจะให้น้องทั้งสามคนแปลกใจ
พอผมเปิดประตูห้องปรากฏว่าทั้งห้องอยู่ในแสงสลัวๆ จากการรูดม่านทั้งหมดกั้นแสงไว้ เสียงเครื่องปรับอากาศดังเบาๆ ภายในห้องเย็นสบายต่างจากความร้อนยามบ่ายของชายทะเลด้านนอก น้องทั้งสามนอนหลับกันกระจายไปทั่วห้องพัก ด้านนอกน้องมิซูกินอนอยู่ที่โซฟายาวในชุดบิกินี่สีแดงแต่ห่มผ้าแพรคลุมท่อน ล่าง น้องโทโมเอะลากฟูกที่นอนสำรองมาวางที่ห้องรับแขกแล้วหลับอย่างสบายทั้งที่ อยู่ในชุดบิกินี่สีชมพู ส่วนน้องรินะหลับอยู่บนเตียงในห้องนอนใหญ่ทั้งสามคนหลับสนิทด้วยความเพลีย จากการเดินทางโดยไม่รู้ว่าผมกลับมาถึงแล้ว สมองผมเริ่มวางแผนสำหรับการพักผ่อนในวันนี้ทันที
ผมเดินเข้าไปที่ห้องนอนใหญ่ น้องรินะนอนหงายหลับอย่างสบายในชุดบิกีนี่สีขาวที่คงเตรียมตัวไปเล่นน้ำตอน เย็น ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ ดูใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูของน้องรินะที่แม้ในยามหลับก็ยังมีรอยยิ้มน้อยๆ แสดงถึงความขี้เล่นและอารมณ์ที่สดใสเสมอ ผมเลื่อนสายตามมาที่หน้าอกกะทัดรัดสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ต่ำลงไปเป็นหน้าท้องขาวเนียนเรียบไรขนอ่อนๆ ทำให้มันน่าดู ยิ่งเมื่อเลือนสายตาลงไปที่บิกินี่ท่อนล่าง ความโหนกนูนอวบเป่งดันบิกินี่ออกมาเป็นรูปร่างชัดเจน ทั้งขนาดและรอยผ่าน้อยๆ ที่แม้ผมจะเย็ดมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เคยนึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย ควยผมลุกชี้เด่แต่ก่อนที่ผมจะปลุกน้องรินะขึ้นมาร่วมรัก น้องรินะก็พลิกตัวตะแคงอวดบั้นท้ายกลมกลึงให้ผมชมแทนที่
ผมสูดหายใจลึกๆ พยายามลุกจากเตียงมาที่โซฟาที่น้องมิซูกิกำลังนอนหลับสนิทมีเสียงกรนเบาๆ บิกินี่สีชมพูที่น้องมิซูกิใส่อยู่ดูจะไม่เหมาะกับหน้าอกที่เพิ่งขึ้นเป็น เต้าเล็กๆ ของน้องมิซูกินัก แต่ผมก็รู้ดีว่าหน้าอกเล็กๆ คู่นี้เต่งตึงไม่แพ้ใคร หัวนมของน้องมิซูกิดันเนื้อผ้าบางออกมาเห็นเป็นรูปร่างน่าดูดเคล้น ท่อนล่างมีผ้าห่มปิดไว้ผมค่อยๆเปิดแง้มดูคิดว่าจะได้เห็นบิกินี่สีเดียวกัน แต่ผิดคาดเพราะท่อนล่างของน้องมิซูกิไม่ได้ใส่อะไรเลย บิกินี่สีเดียวกันถอดวางอยู่ข้างสะโพก น้องมิซูกิคงจะอึดอัดที่จะนอนในกางเกงรัดรูปจึงถออดออกเพื่อความสบายตัว แต่มันเป็นการทำให้หีน้อยๆที่อวบอัดเปิดให้ผมเห็นโดยไม่มีอะไรปิดบัง ขนาดของมันขยายขึ้นกว่าวันแรกที่น้องมิซูกิร่วมรักกับผม แต่ช่องหลืบยังคงปิดสนิทเป็นสีชมพูสดใสด้วยวัยเยาว์ รสชาติแน่นหนึบของน้องมิซูกิ และหีที่เปิดโชว์อย่างเต็มตาแบบนี้ทำเอาผมต้องค่อยๆ ถอดเครื่องแต่งกายออกหมด และคุกเข่าลงที่หน้าโซฟา ก่อนค่อยๆ แตะปลายลิ้นลงที่ติ่งเสียวของน้องมิซูกิ
“อืมห์...”น้องมิซูกิครางเบาๆ เมื่อลิ้นผมสัมผัส ผมค่อยลากปลายลิ้นขึ้นลงตามรอยผ่า สองมือไล้เรียวขายาวเนียนนุ่มไปที่สะโพก ลิ้นค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นทีละน้อย“อื๊ย...อื๊ย..”
น้องมิซูกิสะดุ้งแอ่นสะโพกรับลิ้น แต่ยังไม่ตื่น น้ำเสียวลื่นๆ เริ่มไหลออกมามาจากร่องหลืบจนรู้สึกได้ ผมกระดกลิ้นไปที่ติ่งเสียวเน้นหนักๆ ก่อนแซะปลายลิ้นเข้าไปในร่องหลืบน้อยๆที่ฉ่ำเยิ้มนั้น“ อุ๊ย.. อะไร..น้าเอก..ว๊าย..ทำอะไรมิซูกิน่ะ”
น้องมิซูกิลืมตาตื่นทันทีที่ลิ้นผมแทรกเข้าไปในรูหี ผมเงยหน้าขึ้น ทำปากจุ๊ๆ แล้วกระซิบ“มิซูกิจังเงียบๆ นะเดี๋ยวรินะจังตื่น”
น้องมิซูกิหน้าแดงพยักหน้ารับ ผมเลื่อนตัวขึ้นไปบนโซฟา อุ้มร่างบอบบางขึ้นมาบนตักก่อนประกบปากน้อยๆ แลกลิ้นอย่างนุ่มนวล
“อื้อ....น้าเอกมาก็ไม่ปลุกมิซูกิก่อน” น้องมิซูกิถอนปากแล้วกระซิบต่อว่า“ก็น้ากำลังปลุกมิซูกิจังอยู่นี่ไง”
ผมกระซิบตอบก่อนไซร้ไปที่ซอกคอ มือทั้งสองดึงบิกีนี่ของน้องมิซูกิออกจากศีรษะ น้องมิซูกิยกแขนขึ้นปล่อยให้ผมปลดท่อนบนออกอย่างง่ายดาย หน้าอกคู่น้อยที่แข็งเป็นไตชูช่ออยู่หน้าผม หัวนมสีน้ำตาลอ่อนตั้งชูชันด้วยความเสียว ผมประกบปากดูดหัวนมพร้อมใช้ลิ้นบดเวียนเน้นๆ ที่ปลายยอดทำเอาน้องมิซูกิครางออกมาน้ำเสียวหลั่งออกมาจนหัวควยผมที่อัด แน่นอยู่กับสะโพกด้านล่างของน้องมิซูกิรับรู้ถึงความฉ่ำเยิ้ม
“โอย... น้าเอก..มิซูกิเสียวจัง...”“งั้นน้าเริ่มเลยนะ...”
น้องมิซูกิพยักหน้ารับอายๆ ผมยกร่างน้องมิซูกิขึ้น แล้วค่อยๆ หย่อนลงมาหาแท่งควยที่แข็งเป็นลำเบื้องล่าง มันเคลื่อนเข้าหาร่องหีที่ฉ่ำเยิ้ม ก่อนมุดหัวลงไปช้าๆ น้องมิซูกิกัดฟันแน่น
“อูยส์ ดีจังน้าเอก.....ช้าๆ ก่อนนะมันคับไปหมด มิซูกิเสียว”
ผมพยักหน้ารับทั้งที่เสียวหัวควยจาการบีบรัดของรูหีน้องมิซูกิจนแทบจะระเบิด ออกมา รูหีคว่ำของน้องมิซูกิเหมาะกับท่านั่งเย็ดแบบนี้เป็นที่สุด การร่วมรักที่ผ่านมาตลอดอาทิตย์ที่ผมค่อยๆ ขยายแท่งควยขึ้นทีละน้อย ทำให้ในที่สุดน้องมิซูกิก็สามารถรับลำควยเต็มขนาดของผมได้แม้ว่ามันจะคับจน แทบขยับไม่ได้ก็ตาม ผมค่อยๆ ยกสะโพกน้องมิซูกิขึ้นลงช้าๆ แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นทีละน้อย จนน้องมิซูกิตัวสั่นไปหมด ปากน้อยอ้ากว้างพร้อมที่จะส่งเสียงออกมา ผมรีบประกบจูบปากน้องมิซูกิเอาไว้เพื่อป้องกันการส่งเสียงที่จะปลุกให้น้อง รินะและน้องโทโมเอะตื่น น้องมิซูกิแลกลิ้นเกี่ยวพันกับผมอย่างรุนแรง ผมค่อยๆ เดินหน้าทีละน้อยเบี่ยงสะโพกโยกซ้ายขวาสลับกัน และเพิ่มความเร็วในการกระเด้ามากขึ้น จนในที่สุดแท่งควยก็มุดลงสู่ความอบอุ่นในถ้ำน้อยของน้องมิซูกิทั้งหมด น้องมิซูกิถอนใจเฮือก..“อูวส์.. คับสุดยอดเลยน้าเอก...มิซูกิเสียวจัง”
ผมบดคลึงโหนกควยกับหีอวบอูมของน้องมิซูกิอยู่ครู่หนึ่งเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนพลิกตัวน้องมิซูกิขึ้นด้านบนให้คร่อมตัวผมไว้ สองมือจับเหนี่ยวสะโพกกลมมนยกขึ้นลง น้องมิซูกิแอ่นตัวตามแรงมืออย่างรู้งานและเริ่มเพิ่มความเร็วพร้อมบิดสะโพก บดเน้นเนินหีเข้ากับแท่งควยอย่างไม่กลัวเจ็บ สองมือผมประกบเข้ากับหน้าอกเต่งทั้งสองข้างบีบเคล้นอย่างเมามัน หัวนมสีน้ำตาลอ่อนชูชันแข็งเป็นไตสั่นระริกสู้มือบอกให้รู้ถึงอารมณ์เสียว ของสาวน้อยวัย 11 กล้ามเนื้อในรูหีน้องมิซูกิบีบรัดลำควยผมอย่างรุนแรงจนน้ำแทบทะลัก มันหนึบแน่นสุดยอดแต่นุ่มนวล
“อึ๊ด..อึด..โอ๊วส์ น้าเอก มิซูกิจะ..จะ .. โอ๊วส์..”
น้องมิซูกิคราง เกร็งตัว..สั่นระริก ก่อนล้มลงฟุบบนตัวผม ผมกอดร่างบอบบางน้อยๆ ของน้องมิซูกิไว้แน่นสองมือลูบหลังให้ผ่อนคลาย ทั้งที่แท่งควยผมยังแข็งปั๋งอยู่ในรูหี ผมพลิกน่างน้องมิซูกิให้กลับมาอยู่ในท่าตะแคง ยกขาน้องมิซูกิข้างหนึ่งมาเกี่ยวที่เอว แล้วเริ่มกระเด้าช้าๆ
“อู๊ย... อีกแล้วหรือน้าเอก...”น้องมิซูกิหน้าแดงกระซิบเสียงสั่น
“มิซูกิจังนอนนิ่งๆ นะ เดี๋ยวน้าจัดการเอง”
ผมกระซิบตอบ สองมือจับเอวน้องมิซูกิแน่น แล้วโยกเข้าออก ลำควยผมผลุบเข้าออกในร่องหลืบช้าๆ หนักหน่วง และเร่งความเร็วถี่ยิบตามความเสียวที่กำลังวิ่งมาที่ปลายควย ผมประกบจูบที่ปากน้อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้องมิซูกิส่งเสียง…..แต่น้องมิซูกิยังคงส่งเสียงครางใน ลำคอพอจับใจความได้.“..อ๊าย..โอ๊วส์ จะไปอีกแล้ว..โอ๊วส์...”
ผมเพิ่มความเร็วถี่ยิบ ดึงสะโพกน้องมิซูกิเข้าออกตามจังหวะกระเด้า ร่องหลืบของน้อมิซูกิบีบแน่นก่อนตอดถี่ยิบเป็นสัญญานว่าน้องมิซูกิไปสวรรค์ อีกรอบแล้ว ผมเองก็สุดจะกลั้นน้ำรักมากมายทะลักพรวดเข้าไปในร่องหลืบ ความแรงของมันทำเอาน้องมิซูกิสะดุ้งเฮือก ครางในลำคอ
“อ๊ายยยยยยยยยยยย...อู๊วส์...ไม่ไหวแล้วน้า”
น้องมิซูกิครางตาหลับปี๋กล้ามเนื้อเกร็งกระตุกครู่หนึ่งก่อนผ่อนคลายตัว และผลอยหลับไปทั้งๆ ที่รูหียังอมแท่งควยผมทั้งอัน..
ผมค่อยๆ ดึงแท่งควยออกจากรูหลืบน้องมิซูกิ น้ำรักมากมายไหลตามออกมาเปื้อนเบาะโซฟา ผมเอาผ้าห่มคลุมตัวน้องมิซูกิไว้ปล่อยให้หลับไป น้องมิซูกิมีความทนต่อการร่วมรักน้อยกว่าน้องรินะและน้องโทโมเอะ การขึ้นถึงจุดสุดยอดเพียงครั้งเดียวก็ทำให้น้องมิซูกิแทบจะหมดแรงจนหลับเป็น ตายทุกครั้ง วันนี้ผมจึงเลือกน้องมิซูกิเป็นเป้าหมายแรกเพื่อที่จะโจมตีเป้าหมายที่ยาก ขึ้นต่อไป
ผมลุกจากร่างน้องมิซูกิเพื่อไปเข้าห้องน้ำทำความสะอาดและล้างคราบที่ติดอยู่ ระหว่างอาบน้ำผมดูการตกแต่งห้องน้ำด้วยความพอใจ เพราะมันเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่มีอ่างน้ำวนจากุชี่ขนาด 4 คนอยู่ติดผนัง มีกระจกบานใหญ่เต็มผนังห้องด้านติดทะเล ทำให้ผู้ใช้ห้องน้ำสามารถชื่นชมความงามของทิวทัศน์พร้อมกับการผ่อนคลายใน อ่างจากุชชี่ได้เต็มที่ ก่อนจะออกจากห้องผมเปิดน้ำจนเต็มอ่างกระแสน้ำวนเป็นฟองชวนให้ลงไปนั่งผ่อน คลายกล้ามเนื้อ ผมกำหนดแผนพักผ่อนวันนี้ใจ แล้วกลับเข้ามาที่ห้องพักตรงไปที่ร่างของน้องโทโมเอะที่ยังคงนอนหลับสบาย อยู่ที่กลางห้อง
วันนี้น้องโมโมเอะใส่บิกินี่สีชมพู แปลกจากวันธรรมดาที่น้องโมโมเอะจะใส่ชุดวันพีซว่ายน้ำ เนื่องจากหน้าอกที่ค่อนข้างแบราบของน้องโทโมเอะทำให้เด็กหญิงไม่กล้าอวดท่อน บนมากนัก แต่การมาเที่ยวครั้งนี้ ผมเชื่อว่าน้องโทโมเอะคงต้องการแต่งบิกินี่เพื่อแข่งกับน้องรินะและน้องมิซู กิมากกว่าผมนั่งลงบนเบาะพิจารณาใบหน้าน่ารักของน้องโทโมเอะด้วยความรัก ในบรรดาน้องกลุ่มนี้น้องโทโมเอะดูจะเป็นเด็กหญิงที่สงบเสงี่ยมที่สุด แต่การร่วมรักของน้องโทโมเอะกลับสนองความต้องการทุกรูปแบบของผมอย่างเต็มที่ แคมหีอวบอัดบนสะโพกหนานุ่มนวลของน้องโทโมเอะ ทำเอาผมแทบหมดแรงทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเย็ดเด็กหญิงคนนี้
สองมือผมไล้ลงไปในบิกินี่ท่อนบนของน้องโทโมเอะ มันผ่านเข้าไปอย่างง่ายดายจากการที่ไม่มีแรงดันของหน้าอกกับชุดว่ายน้ำ ฝ่ามือผมสัมผัสหัวนมบนหน้าอกแบนราบ ผมค่อยๆ คลึงฝ่ามืออย่างช้าๆ จนหัวนมเล็กๆ เริ่มแข็งตัวขึ้นสู้มือมืออีกข้างของผมเลื่อนลงไปที่ขอบบิกินี่ท่อนล่าง คราวนี้กลับตรงข้ามกับท่อนบน มือผมแทบไม่สามารถผ่านของบิกินี่ลงไปหาเนินหีได้จากความอวบอัดของสะโพกที่ ดันชุดว่ายน้ำจนแทบปริ ผมตัดสินใจถอนมือออกมาบีบคลึงเนินหีนอกชุดบิกินี่เบาๆไปมา ใบหน้าน่ารักของน้องโทโมเอะเริ่มส่ายช้าๆ มีเสียงครางออกมาจากลำคอ
"อื้อ….อือ…อาห์"
สะโพกอวบอัดเบื้องล่างเริ่มเคลื่อนไหวรับการบีบคลึงของผม ความชุ่มชื้นเริ่มแทรกผ่านขอบบิกินี่ออกมาเป็นดวงส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ผมค่อยๆ โน้มตัวลงทาบทับร่างน้อยเบาๆ แล้วประกบคลึงปากอวบอิ่มไปมา น้องโทโมเอะลืมตาขึ้นทีที่ลิ้นของผมเริ่มหาทางแทรกผ่านไรฟันเข้าไป แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผมน้องโทโมเอะก็หลับตาพริ้มสองแขนโอบขึ้นกอดผมแน่นแลก ลิ้นกับผมอย่างเต็มอกเต็มใจ