Lolita mansion ตอนที่่ 8 (เล่าเรื่องเสียว)
ตอนที่ 8 พิธีไล่วิญญานของน้องโทโมเอะ
ผมซุกหน้าเข้ากลางเต้างามของน้องทาคาโอะที่กำลังส่ายไหวตามการเคลื่อนตัว ขึ้นลงของสะโพก ปลายยอดสีชมพูที่เชิดงอนขึ้นน้อยๆ ตื่นตัวชูชันจนเป็นเม็ดแข็งสะดุดฝ่ามือผมที่กอบกุมคลึงมันไปมา ร่างเปล่าเปลือยของน้องทาคาโอะขึ้นครอมร่างผมและเป็นฝ่ายรุกโดยใช้หีอวบอูม เข้าสวมแท่งควยดำเนินการกลืนกินอาหารด้วยตัวเอง ความเสียวที่ปลายควยสะสมจนมันแข็งปั๋งและกระเด้งตัวเองรับการกระเด้าของน้อง ทาคาโอะอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ผมละมือจากการเคล้นคลึงเต้างอนงามลงมายังสะโพกที่ตึงแน่นแต่นุมนวลของน้องทา กาโอะ บีบแก้มก้นกลมหนักๆ ตามกระแสความเสียวที่กำลังพลุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นิ้วผมเลื่อนไล้ไปด้านหลัง ลากผ่านและเสียดสีร่องก้นของน้องทากาโอะไปมา แล้วแหย่กระตุ้นลงไปในรูทวารเบาๆ น้องทาคาโอะสะดุ้งเมื่อบางส่วนของปลายนิ้วผ่านรูหลืบที่คับแน่นด้านหลัง ใบหน้าสวยหวานหลับตาปี๋ เมิ้มริมฝีปากแต่มีเสียงครางลอดออกมาเป็นระยะ…
"อูวส์…อาวส์ …ดีไหมน้าเอก…น้าเอกชอบไหม"
ผมละใบหน้าที่กำลังดูดเฟ้นปลายหัวนมสีชมพูชูชัน ไปที่ข้างใบหูขาวสะอาด
"น้าเสียวจนแทบทะลักแล้ว…ทากาโอะจังเยี่ยมที่สุดเลย"
น้องทากาโอะยิ้มรับคำชมของผม เร่งความเร็วในการกระแทกจนสะโพกไหวระริกยู่ในมือผม ส่งเสียงครางลั่น
"อื๋อ..อึ้ดดดด นะ..น้าเอก….ไปกับทากาโอะเลย.."
งามเพรียวงดงามของน้องทาคาโอะสั่นระริก ผมกอดเอวน้อยๆ ไว้แล้วดึงร่างน้องทากาโอะลงมานอนหงายแล้วกระเด้าตามถี่ยิบหนักหน่วง จนร่างน้อยกระดอนไปมา ลำขาน้องทากาโอะยกขึ้นสูงแล้วเกี่ยวกอดเอวผมไว้แน่น ความเสียวสุดยอดมาถึงปลายควย ผมหลับตาฉีดน้ำรักทะลักเข้าสู่โพรงหีที่กำลังตอดรัดเป็นจังหวะ น้องทากาโอะแอ่นสะโพกขึ้นอัดวนบดโหนกนูนเข้ากับโหนกควยของผมแนบแน่น ผมกดร่างลงทาบทับร่างเปลือยชื้นเหงื่อ ดอมดมหน้าอกอวบอัดไปมา น้องทากาโอะกอดผมไว้แน่นพร่ำกระซิบข้างหูผม
"ทาคาโอะมีความสุขที่สุด รักน้าเอกที่สุดเลย.."
ผมจูบที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้น..
"น้าก็รักทาคาโอะที่สุด…วันนี้หยุดเรียนอยู่กับน้าทั้งวันได้ไหม"
น้องทาคาโอะจิ้มจมูกผม แล้วย่นจมูกใส่อย่างล้อๆ
"ไม่ไปหารินะจังหรือน้าเอก…"
ผมซุกกลับลงไปที่หน้าอกคู่งาม บดเบียด จงอยสีชมพูที่เริ่มชูชันอีกครั้งจากแรงสัมผัส สะโพกผมเริ่มขยับขึ้นลงช้าๆ ควยที่ชุ่มน้ำรักเดินทางเข้าออกถ้ำน้อยที่แสนรัดรึงอีกครั้ง น้องทาคาโอะส่ายหน้าครางออกมาด้วยความเสียว..
"อูย.น้าเอกจะไม่ให้ทากาโอะพักเลยหรือ ทะ ทะ ทากาโอะ ยะ..หยุดเรียนก็ ดะ ได้ โอ้วส์…"
ผมจูบเม้มหัวนมชูชันที่กำลังไหวระริก
"วันนี้ทากาโอะเรียนพิเศษกับน้าก็แล้วกันนะ"
-------------------------
ยูโกะกลับไปญี่ปุ่นได้เดือนเศษแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปท่ามกลางการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของผม เรื่องแรกที่ผมทำหลังยูโกะกลับคือการเล่าเรื่องน้องรินะและน้องโทโมเอะให้ น้องซูกุมิรับทราบ ทีแรกผมก็หวั่นๆ ว่าน้องซูกุมิจะโกรธที่ผมไปรับน้องรินะมาเป็นเมียและรับดูแลน้องโทโมเอะให้ ยูโกะ แต่กลับปรากฏว่าน้องซูกุมิกลับดีใจที่มีน้องรินะมาอยู่ร่วมในครอบครัวเล็กๆ นี้ด้วย เพราะน้องซูกุมิรู้จักและเอ็นดูน้องรินะมานานแล้ว จากการที่น้องรินะเป็นเด็กที่มีมนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศและช่วยเหลือทุกคนใน โรงเรียนด้วยความเต็มใจ นอกจากนี้น้องซูกุมิยังบอกผมว่าสงสัยเรื่องน้องรินะมานานพอควร จากการที่น้องรินะเริ่มเข้ามาคลุกคลีกับกลุ่มน้องซุกุมิและพยายามอาสาทำโน่น ทำนี่ให้ พอน้องซูกุมิทราบว่าผมมอบหมายหน้าที่ให้น้องรินะเป็นผู้ช่วยผมที่แมนชั่น ใหม่ น้องซูกุมิก็พอจะคาดเดาได้ และดีใจที่ผมไม่ปิดบังเรื่องน้องรินะ
ส่วนน้องโทโมเอะ ผมได้จัดการให้สอบเทียบชั้นเรียนในโรงเรียนเดียวกับน้องรินะ ซึ่งปรากฏว่าระดับความรู้ของน้องโทโทเอะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและโรงเรียนก็รับ น้องโทโมเอะเข้าเรียนในชั้นเดียวกันกับน้องรินะ เด็กหญิงทั้งสองเลยยิ่งสนิทสนมกับราวกับคู่แฝด ทำให้น้องโทโมเอะร่าเริงแจ่มใสขึ้นที่มีเพื่อนในวัยเดียวกันจำนวนมาก แทนที่จะต้องทำงานในร้านอาหารดังที่เคยปฏิบัติมาตลอด ผมเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของน้องโทโมเอะด้วยความชื่นชม ความสดชื่นแจ่มใสยิ่งทำให้น้องโทโมเอะน่ารักขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดถึงคำพูดฝากฝังของยูโกะแล้วก็ได้แต่รอวันเวลาที่น้องโทโมเอะจะ พร้อมสำหรับทำหน้าที่ตัวแทน ของยูโกะเสียที
ชีวิตผมเริ่มจัดระเบียบตัวเองได้อย่างลงตัว ผมจะทำงานที่แมนชั่นเดิมจนเที่ยง ซึ่งบ่อยครั้งที่น้องทาคาโอะจะมาหาผมที่ห้องพักแต่เช้า เพื่อไปโรงเรียนพร้อมน้องซูกุมิด้วย ส่วนน้องเทนกะแม้จะพักอยู่ที่แมนชั่นเดียวกัน แต่สาวน้อยขึ้นมาที่ห้องพักผมน้อยกว่าทุกคนเนื่องจากพ่อแม่น้องเทนกะไม่ค่อย ชอบให้น้องเทนกะไปค้างคืนที่อื่น อย่างไรก็ตามเมื่อมีโอกาสน้องเทนกะจะใช้คุณลักษณะพิเศษของร่องหีแนวคลื่น จัดการผมจนสมใจทุกครั้ง เช้านี้น้องทากาโอะมาหาน้องซูกุมิที่ห้องพักเพื่อจะไปโรงเรียนด้วยกันตาม ปกติ แต่น้องซูกุมิและน้องริโฮออกไปก่อนแล้ว ผมเลยถือโอกาสสอนพิเศษให้น้องทากาโอะจนนักเรียนสาวรับความรู้จนล้นปรี่ออกมา
ช่วงเที่ยงผมจะออกไปดูแลกิจการที่แมนชั่นใหม่ และทุกบ่ายหลังโรงเรียนเลิกน้องรินะจะเข้ามารายงานผลการทำงานในหน้าที่ผู้ ช่วยของผม และเป็นที่รู้กันว่าผมจะ "ตรวจรายงาน" ของน้องรินะที่ห้องนอนทาวเฮ้าส์หลังห้องทำงานของผมทุกครั้ง ร่างกายของเด็กหญิงวัย 11 ที่พัฒนาขึ้นจนสามารถรองรับควยของผมได้อย่างเต็มที่ ทำเอาผมหลงไหลและเฝ้าร่วมรักกับน้องรินะโดยไม่เคยเบื่อหน่าย ทำเอาน้องรินะเปรยๆ กับผมบ่อยๆ ว่าอยากจะให้น้องโทโมเอะมา "ช่วยงาน" ผมบ้าง
--------------------
ผมไปถึงห้องทำงานที่แมนชั่นใหม่หลังเที่ยงเล็กน้อย ตั้งแต่น้องโทโมเอะไปโรงเรียนผมเลยไม่มีคนคอยดูแลความสะดวกในชุดสายเดียว กางเกงรัดพลูหีที่เจริญตาแบบน้องโทโมเอะอีก โดยกลับเป็นหน้าที่ของแม่บ้านวัยกลางคนมาทำแทน ทำให้เวลาเที่ยงของทุกวันเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย
ผมทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานพบว่ามีจดหมายในซองสีขาวปิดผนึก จ่าหน้าถึงผมด้วยตัวอักษรพิมพ์เลเซอร์เรียบร้อยสวยงาม ผมเปิดออกอ่านแล้วก็ต้องหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู
'เรียนท่านผู้จัดการ
ดิฉันชื่อมิซูกิ ยามาโมโต้ อายุ 10 ปี 8 เดือน ดิฉันเป็นบุตรีของนายมาซาโอะ ยามาโมโต้ พักอยู่ที่ห้องหมายเลข 4B ศึกษาอยู่ ป.5 โรงเรียนโกไซเซนตะ ด้วยในสัปดาห์หน้าโรงเรียนจะปิดทำการสอนในช่วงฤดูร้อน ดิฉันจึงมีความประสงค์จะขอสมัครทำงานชั่วคราวกับท่านผู้จัดการเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ
หากท่านผู้จัดการไม่ขัดข้อง กรุณาแจ้งตอบกลับดิฉันที่โทรศัพท์ภายในหมายเลข 568 ระหว่างเวลา 17.00 - 21.00 น.
จึงเรียนมาเพื่อกรุณาพิจารณา ทั้งนี้ได้แนบภาพถ่ายของดิฉันมาด้วยแล้วลงชื่อ มิซูกิ ยามาโมโต้'
ผมอ่านจดหมายสมัครงานของเด็กหญิงวัยย่าง 11 ขวบด้วยความเอ็นดู ด้านหลังเป็นภาพถ่ายของเด็กหญิงหน้าตาน่ารักตาคมผิวสีแทน ใส่แว่นตากลมที่แทบจะกินพื้นที่ของใบหน้าเล็กๆ ไปเกือบครึ่ง ผมยาวทำเป็นทรงหน้าปรกหน้าผาก และรวบผมไว้ด้านหลังเป็นหางม้า แววตาแสดงออกถึงความเชื่อมั่นในตนเอง ผมไม่แน่ใจว่าจดหมายฉบับนี้เป็นการเขียนของน้องมิซูกิเอง หรือผู้ใหญ่ร่างให้เพราะสำนวนดูจะเป็นทางการมากว่าเด็กวัย 11 ปี แต่เมื่อคิดถึงความตั้งใจแน่วแน่ที่เด็กหญิงแสดงออกในจดหมาย ผมก็ตัดสินใจที่จะปรึกษาน้องรินะก่อน เนื่องจากเนื้อหาของจดหมายระบุชัดเจนว่าน้องมิซูกิเรียนอยู่ห้องเดียวกันกับ น้องรินะ
น้องรินะกับน้องโทโมเอะเข้ามาที่ห้องทำงานผมปกติหลังเลิกเรียน ส่งเสียงวุ่นวายตามปกติ แต่ผมไม่ถืออะไรเพราะคุ้นเคยและกลับเห็นว่าเป็นการเพิ่มบรรยากาศแจ่มใสใน ห้องทำงานเสียอีก น้องโทโมเอะแยกตัวไปอาบน้ำที่ทาวเฮ้าส์ เพื่อให้น้องรินะได้รายงานการทำงานให้ผมทราบ เมื่อน้องโทโมเอะลับตาไป น้องรินะก็กระโดดขึ้นคร่อมร่างผมบนเก้าอี้ทำงานผมกอดร่างน้อยที่ผมแสนรักไว้ แน่นน้องรินะกระซิบข้างหูผม
"รินะคิดถึงน้าเอกที่สุดเลย อยากกลับมาหาน้าเอกเร็วๆ""น้าก็คิดถึงรินะจัง"
ผมจูบริมฝีปากสาวน้อยเบาๆ ท่านั่งคร่อมเก้าอี้ทำงานของน้องรินะ ทำให้กระโปรงคลุมเท้าแขนของเก้าอี้เอาไว้ และเนินหีน้อยในกางเกงในกดอัดแน่นกับเป้ากางเกงผม แท่งควยผมเริ่มตื่นตัวขึ้นเมื่อรู้สึกว่าน้องรินะก็พยายามส่ายเนินหีเข้า คลึงกับมันทั้งที่ยังมีเสื้อผ้าขวางกั้นอยู่ ผมจูบไซร้ริมฝีปากหอมหวานครู่ใหญ่เคล้าคลึงทรวงอกกระทัดรัดภายนอก จนรู้สึกว่าเป้ากางเกงผมเริ่มเปียกชื้นจากน้ำหล่อลื่นของรินะที่กำลังบิด ส่ายร่างไปมา ผมนึกขึ้นได้ว่าน้องโทโมเอะจะต้องกลับเข้ามาในห้องเพื่อช่วยทำความสะอาด จึงต้องรีบระงับอารมณ์ไว้
"พอก่อนนะ เดี๋ยวโทโมเอะจังกลับมาเห็น"
น้องรินะถอนปากออก แล้วก้าวลงจากเก้าอี้ส่งเสียงบ่นงึมงัม"เมื่อไหร่น้าเอกจะเย็ดโทโมเอะจังซักที รินะจะได้ไม่ต้องคอยหลบ"
ผมหัวเราะเบาๆ ดึงน้องรินะกลับเข้ามากอด แล้วรีบตัดบท "เดี๋ยวน้องโทโมเอะกลับห้องแล้ว เราค่อยไปในห้องแก้ผ้านะ"
น้องรินะหัวเราะกิ๊ก ห้องแก้ผ้าเป็นคำหยอกล้อที่ผมใช้กับน้องรินะหมายถึงห้องนอนหลังห้องทำงาน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผมพาน้องรินะเข้าไปในห้อง จะไม่มีการสวมเสื้อผ้าให้เป็นสิ่งกีดขวางการร่วมรัก จนน้องรินะเปรยออกมาว่าห้องนี้น่าจะเรียกว่าห้องแก้ผ้า ทำให้กลายเป็นคำที่ใช้เรียกไปโดยปริยาย
ครู่หนึ่งน้องโทโมเอะก็กลับเข้ามา แม้ว่าผมจะไม่ให้น้องโทโมเอะหยุดทำงานกับผม แต่เด็กหญิงก็ยังคงถือเป็นหน้าที่ในการดูแลทำความสะอาดห้องทำงานและทาว เฮ้าส์ด้วยความเต็มใจ ทำเอาน้องรินะต้องขยับไปช่วยด้วยกริยาท่าทางที่ขยันขันแข็งของเด็กหญิงทั้ง สองเบื้องหน้า ทำให้ผมรู้สึกเอ็นดู และตั้งใจที่จะให้การดูแลน้องทั้งสองอย่างดีที่สุด
ผมนึกขึ้นมาได้ถึงจดหมายสมัครงานของน้องมิซูกิ จึงรีบเรียกน้องทั้งสองให้มานั่งกับผมที่โซฟา แล้วยื่นจดหมายให้อ่าน น้องรินะอ่านแล้วก็เบ้ปากเล็กน้อย ก่อนพูดแบบบ่นๆ
"ยายมิซูกิจะแข่งกับรินะอีกแล้วแน่เลย"น้องโทโทเอะพยักหน้ารับและเสริม"มิซูกิจังเขาไม่เคยยอมเป็นที่สองจริงๆ นะ"
"อ้าว".. ผมอุทานออกมา "เรื่องมันเป็นยังไงล่ะเนี่ย"
น้องรินะกับน้องโทโมเอะช่วยหันเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับน้องมิซูกิว่า น้องมิซูกิเป็นเด็กเรียนเก่งที่สุดในชั้น ทำเกรดได้ 4 เต็มทุกวิชา เนื่องจากเป็นคนที่มีนิสัยชอบเอาชนะและไม่ยอมให้ใครเก่งกว่าในทุกๆ ด้าน หากมีวิชาใดที่มีผู้ทำคะแนนได้มากกว่า น้องมิซูกิจะทุ่มเทสุดตัวจนกว่าจะชนะ แม้กระทั่งการว่ายน้ำที่น้องมิซูกิไม่ถนัด น้องมิซูกิก็เฝ้าฝึกซ้อมจนดึกในสระน้ำของโรงเรียนทุกคืนโดยขออนุญาตพิเศษ เพียงเพื่อเอาชนะเพื่อนๆ ทุกคนในชั้นให้ได้ ที่ผ่านมาเรื่องที่น้องรินะทำงานให้ผมในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ (ปลอมๆ) และการที่น้องรินะได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่มัธยมต้นกลุ่มน้องซูกุมิที่ถือ ว่าเป็นกลุ่มที่เก่งและน่ารักที่สุดในโรงเรียน ทำให้น้องรินะโดดเด่นในกลุ่มเพื่อน ซึ่งน้องรินะเองก็เห็นว่าการที่น้องมิซูกิพยายามขอทำงานกับผมก็เพื่อเอาชนะ น้องรินะ ทั้งที่น้องรินะเองก็ไม่ต้องการแข่งขันอะไรกับใคร
ผมฟังเรื่องของน้องมิซูกิด้วยความเอ็นดูในนิสัยของเด็กหญิง ในใจคิดจะรับให้น้องมิซูกิเข้าทำงาน แต่ผมต้องถามความเห็นของน้องรินะก่อน
"แล้วรินะจังกับโมโมเอะจังเห็นว่าน้าควรรับมิซูกิจังให้ทำงานไหมล่ะ"น้องรินะตอบอย่างไม่สนใจอะไรนัก
"ยายมิซูกิเขาเก่งมากนะน้าเอก ช่วยงานน้าเอกได้สบายมาก ถ้าน้าเอกอยากมีคนช่วยงานเรื่องหนังสือละก็ให้ยายมิซูกิมาช่วยเถอะ"
ผมฟังคำตอบของน้องรินะด้วยความรู้สึกภูมิใจ แม้น้องรินะจะแสดงท่าทีว่าไม่ชอบน้องมิซูกิเท่าไหร่ แต่น้องรินะก็คำนึงผลที่ผมจะได้เป็นหลักมากกว่าความรู้สึกส่วนตัว ผมรู้สึกภูมิใจในเมียตัวน้อยของผมคนนี้ และมั่นใจว่าในอนาคตน้องรินะจะเป็นหัวแรงสำคัญในการช่วยธุรกิจของผมอย่างแน่ นอน
"งั้นน้าจะรับมิซูกิจังก็แล้วกันนะ"
น้องมิซูกิกับน้องโทโมเอะพยักหน้ารับพร้อมกัน เป็นอันตกลงโดยไม่มีเสียงคัดค้าน น้องโทโมเอะขอแยกตัวไปทำการบ้าน ทันทีที่เสียงประตูปิดลง น้องรินะก็กระโดดขึ้นเอวผมทันทีจนผมแทบเซจากน้ำหนักตัว ผมสบสายตาน้องรินะที่บอกอย่างแจ่มแจ้งว่าต้องการอะไร แล้วอุ้มร่างน้อยตรงไปที่ห้องนอน…
วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ผมเดินทางไปที่แมนชั่นใหม่ก่อนเที่ยงเล็กน้อย การร่วมรักกับน้องทากาโอะและน้องรินะเมื่อกลางวัน แถมด้วยน้องซูกุมิอีกทั้งคืน ทำเอาร่างกายผมที่แม้จะไม่เหมือนคนทั่วไป ก็แทบจะเดินไม่ไหวเอาเหมือนกัน ผมเปิดประตูห้องทำงานเข้าไป แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นร่างของเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าโต็ะทำงานของผม เมื่อเห็นผมเปิดประตูเข้าไป เด็กหญิงก็หันหน้ามา ผมจำได้ทันทีจากที่เห็นในรูปถ่ายว่าเป็นน้องมิซูกิ ที่ผมแจ้งกับคุณติ๋วให้ตอบรับใบสมัครและนัดให้มาสัมภาษณ์วันนี้
น้องมิซูกิเดินตรงเข้ามาคำนับอย่างอ่อนน้อมในมือถือนามบัตรทำเองด้วยเครื่อง คอมพิวเตอร์ส่งให้ อย่างเป็นทางการ ผมอมยิ้มด้วยความเอ็นดูแล้วโค้งตอบ แล้วเชิญให้น้องมิซูกิด้วยน้ำเสียงแบบนักธุรกิจเจรจากัน ผมเริ่มถามประวัติส่วนตัวซึ่งน้องมิซูกิก็ตอบอย่างฉะฉานจริงจัง การสนทนาทำให้ผมทึ่งในความสามารถของน้องมิซูกิ เพราะน้องมิซูกิสามารถใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์งานและอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่อง แคล่ว รวมทั้งเป็นผู้เขียนจดหมายสมัครงานด้วยตนเอง การเลือกใช้คำต่างๆ ในการโต้ตอบกับผมบอกให้รู้ว่าเด็กหญิงคนนี้ฉลาดเกินอายุไปหลายปี แทบจะเรียกได้ว่าเป็นนักศึกษาในร่างของเด็กประถมทีเดียว
ผมแกล้งทำเป็นอ่านจดหมายสมัครงานอีกรอบหนึ่ง ก่อนบอกให้ทดสอบการเขียนแบบรายงาน 1 หน้าโดยให้ไปร่างที่คอมพิวเตอร์ น้องมิซูกิรับคำแล้วเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เรียกโปรแกรมอย่างชำนาญ ผมแอบพิจารณาเด็กหญิงที่กำลังง่วนอยู่กับการร่างแบบรายงานด้วยความสนใจ น้องมิซูกิเป็นเด็กหน้าตาน่ารักแต่การที่วางหน้าเรียบเฉยและการพูดจาที่ พยายามเลียนแบบผู้ใหญ่ทำให้น้องมิซูกิขาดความแจ่มใสอย่างที่เด็กวัยเดียวกัน ควรจะเป็น แว่นสายตากรอบพลาสติคสีแดงอันใหญ่ตกลงมาที่ดั้งจมูกน้อยๆ ริมฝีปากเม้มบอกความตั้งใจในการเรียบเรียงรายงาน ร่างกายของน้องมิซูกิค่อนข้างเล็กและบอบบางแทบจะเป็นร่างกายของเด็กอายุ 9 ขวบมากกว่า เสื้อยืดสีเหลืองรัดรูปทำให้เห็นว่าหน้าอกของน้องมิซูกิมีขนาดเล็ก แม้จะไม่ราบเรียบแบบน้องโทโทเอะ แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่าไม่มากนัก อย่างไรก็ตามแขนและขาของน้องมิซูกิที่พ้นการปกคลุมของเสื้อและกระโปรงสั้น แค่เข่าที่น้องมิซูกิสวมมา เป็นสีแทนเนียนเรียบมีเนื้อหนังสมบูรณ์สมกับวัย ไม่เป็นกระดูกเก้งก้างเหมือนเด็กหญิงร่างเล็กทั่วไป แสดงให้เห็นว่าน้องมิซูกิเป็นคนที่มีกระดูกเล็กทำให้ร่างกายดูบอบบางทั้งที่ กล้ามเนื้อทุกส่วนเจริญเติบโตโดยไม่มีข้อบกพร่อง ผมคิดในใจว่าถ้าน้องมิซูกิยิ้มร่าเริงแจ่มใสเหมือนน้องรินะ และเลิกใช้แว่นตากรอบโตเชยๆ อันนั้น น้องมิซูกิจะเป็นเด็กหญิงที่น่ารักคนหนึ่งที่น่าจะดึงดูดความสนใจของเพื่อน ชายวันเดียวกันได้ทุกคน
น้องมิซูกิพิมพ์รายงานเสร็จในเวลาอันรวดเร็วแล้วนำมาส่งให้ ผมอ่านดูคร่าวๆ พบว่าทุกอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ที่แม้แต่พนักงานธุรการของผมก็คงทำไม่ได้ดีกว่านี้ ผมเงยหน้าขึ้นสบตาน้องมิซูกิที่กำลังดูผมอยู่ แล้วยิ้มให้
น้องมิซูกิรีบถามทันที"ผู้จัดการจะรับดิฉันเข้าทำงานหรือไม่ค่ะ"
ผมแทบกลั้นเสียงหัวเราะจากความเอ็นดูไม่ไหวกับการพยายามปั้นท่าทางเป็นผู้ใหญ่ของน้องมิซูกิ แล้วตอบอย่างจริงจัง
"ผมพอใจการทำงานของคุณมิซูกิ และตกลงที่จะรับเข้าทำงาน แต่ผมมีระเบียบปฏิบัติที่ขอเรียนให้คุณมิซูกิทราบก่อนที่จะเริ่มงาน"
น้องมิซูกิพยักหน้ารับ รอยยิ้มปรากฏขึ้นแว่บหนึ่งแล้วหายไป แม้จะเป็นการยิ้มแว่บเดียวแต่รอยยิ้มนั้นก็ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์สดใสขึ้นมา ทันอย่างน่าประหลาด ที ผมรีบกล่าวต่อ
"ข้อแรกคือผมไม่ชอบให้ใครเรียกว่าคุณ ถ้าทำงานกับผมต้องเรียกผมว่าน้า ส่วนผมก็จะเรียกคุณมิซูกิว่ามิซูกิจัง และต้องเลิกใช้คำว่าดิฉันเด็ดขาด มิซูกิจังจะยอมรับระเบียบข้อนี้หรือไม่"
น้องมิซูกิเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ แต่พยักหน้ารับถี่ๆ ผมรีบทบทวนระเบียบทันที"เอาล่ะมิซูกิจัง ลองเรียกน้าเอกซิ"
น้องมิซูกิเม้มปากเล็กน้อย แล้วเปล่งเสียงเรียกเบาๆ"น้าเอก.."ผมพยักหน้ารับ
"ดีมาก งั้นมิซูกิจังเริ่มทำงานวันนี้เลย ต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ล่ะ"น้องมิซูกิก้มหน้าแล้วตอบเสียงแผ่วๆ
"ดิฉัน เอ๊ย มิซูกิขอรับเท่ารินะจังได้ไหมน้าเอก"ผมหัวเราะในใจ..
"งั้นเป็นอันตกลง มิซูกิจังทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้น้าคอยรับโทรศัพท์และจดการนัดหมาย วันนี้ใช้โต๊ะคอมพิวเตอร์ไปก่อน พรุ่งนี้น้าจะให้คนจัดโต๊ะให้ จำไว้นะว่ามิซูกิจังทำงานกับน้าแบบพี่น้อง ทำตัวตามสบายไม่ต้องมีพิธีการอะไร น้าก็จะถือว่ามิซูกิจังเป็นน้องสาวเหมือนกัน"
น้องมิซูกิสบตานิ่งครู่หนึ่งผมก่อนตอบรับ"มิซูกิจะทำงานให้น้าเอกอย่างดีที่สุด"
ผมพยักหน้ายิ้มให้ น้องมิซูกิยิ้มตอบบางๆ ผมไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าในแววตาของน้องมิซูกิ เริ่มมีประกายแจ่มใสปรากฏขึ้นภายใน น้องมิซูกิหันกลับไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์และเริ่มงานทันที
ประตูห้องทำงานของผมเปิดออกโดยไม่มีเสียงเคาะ วิธีเปิดแบบนี้ไม่มีใครแน่นอนนอกจากน้องรินะ ที่ทำท่าจะวิ่งมากระโดกอดผมตามปกติ แต่เมื่อน้องรินะเห็นว่าในห้องมีมิซุกินั่งทำงานอยู่ น้องรินะก็เปลี่ยนท่าทีมานั่งเรียบร้อยที่หน้าโต๊ะทำงานและรายงานผลการดูแล แมนชั่นให้ผมฟัง ผมรีบเรียกน้องมิซูกิมานั่งด้วยและแนะนำ
"รินะจังรู้จักมิซูกิจังดีแล้วใช่ไหม น้าเอกรับน้องมิซูกิจังมาช่วยงานช่วงปิดเทอมนี้ น้องทั้งสองคนทำงานด้วยกันนะ"
น้องมิซูกิสบตากับน้องรินะ แล้วยิ้มให้กันเล็กน้อย ผมรู้ทันทีว่าน้องทั้งสองคนแม้จะอยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่มีความสนิทสนมกัน เท่าที่ควร ซึ่งก็ตรงกับที่น้องรินะเคยเล่าให้ผมฟังว่าน้องมิซูกิวางตัวเป็นผู้ใหญ่ไม่ เล่นกับเพื่อนร่วมชั้น จนทำให้น้องมิซูกิเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนและใช้เวลาแทบทั้งหมดอยู่ในห้องสมุด
น้องรินะคุยกับผมครู่หนึ่งแล้วขอตัวกลับออกไป ส่งสายตาบอกเป็นนัยให้ผมแว่บหนึ่ง ซึ่งผมรู้ว่ามันหมายถึงการนัดหมายกันที่ห้องแก้ผ้า ผมยิ้มให้เป็นสัญญานตอบรับ น้องรินะออกจากห้องไป ส่วนน้องมิซูกิก็กลับไปทำงานตามปกติ ผมดูเวลาแล้วเห็นว่าเป็นเวลาเที่ยงเศษ ก็คิดจะเข้าไปรอน้องรินะที่ทาวเฮ้าส์และจะชวนน้องรินะกับน้องโทโมเอะไปทาน อาหารกลางวันนอกแมนชั่น ผมปิดแฟ้มแล้วบอกน้องมิซูกิ
"มิซูกิจังไปทานข้าวก่อน แล้วค่อยกลับมาตอนบ่ายสองนะ น้าจะออกไปทานข้าวข้างนอกอาจจะกลับช้าหน่อย"
น้องมิซูกิรับคำเบาๆ แล้วออกไปจากห้อง ผมจัดเก็บเครื่องใช้เสร็จก็เดินตรงไปที่ห้องนอนหลังห้องทำงานด้วยความสบายใจ เพราะได้กำหนดแผนสำหรับวันนี้แล้วว่าหลังจากทานอาหารเสร็จผมจะกลับมาร่วมรัก กับน้องรินะตลอดบ่ายให้หายคิดถึง พอผมกดรหัสเปิดประตูห้องนอนเข้าไปก็ต้องแปลกใจเพราะที่บนเตียงมีเสื้อผ้าของ เด็กผู้หญิงพับวางอยู่อย่างเรียบร้อย ด้านบนมีกางเกงในสีชมพูลายการ์ตูนซ้อนอยู่ มีเสียงร้องเพลงดังออกมาจากในห้องผมก้าวเข้าไปในห้องนอนก็พบกับภาพที่ผมต้อง อ้าปากค้าง
น้องโทโมเอะกำลังคุกเข่าถูพื้นห้องอย่างขยันขันแข็งในร่างเปลือยเปล่า หันสะโพกที่กำลังส่ายตัวไปมาตามแรงโยกตัวถูพื้นมาทางผม พลูหีไร้ขนที่มีความอวบอัดเกินเด็กวัย 11 เผยตัวเองอยู่ตรงหน้าผมเต็มตา ร่องหีน้อยๆ ขยับไปมาตามการส่ายของสะโพกอวบกลม ลำขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดูแข็งแรงแต่ได้รูปเป็นแนวตรงลงไปสู่ปลายเท้า ของโทโมเอะ