จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 25 ปรารถนา (story เสียว)
“ดี กระแทกแรงๆ ไม่ต้องกลัวเราเจ็บ .......ซีด .....ดี...ๆ.....ของเจ้าใหญ่คับรูเราเหลือเกินกระแทกแรงแรง แรงอีก น่านต้องอย่างนั้น”
นางสั่งพร้อมกับมือบีบที่ปทุมถันอีกมือนึงนางเขี่ยไปที่เกสรดอกไม้ ซีด....อา.....โอย....ชายหนุ่มรูปร่างกำยำส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านป่าในละแวกใกล้เคียงซอยแท่งเข้าฐานพูอย่างไม่หยุดยั้ง ....ซีด.....อูย......อา.....เกสรพลิกไปมาตามแรงเสียดสีที่ชายหนุ่มกระแทกอย่างไม่ปราณีปราศรัย อา...ข้า..พับ พับ พับ.....พะ...เจ้า.พับ พับ พับ...จะถึงแล้วพับ พับ พับซีด.....อูย....
“ไม่ได้ต้องรอเราก่อน”
“.....อูย.....พับ พับ พับ ข้าพเจ้าไม่ไหวแล้ว ปึด”
“เจ้าช่างใช้การไม่ได้จงตายซะเถอะ”
“อะ..โอย....ท่านนางพญา ...ปะ....โปรด....ไว้ชีวิต...ซีด....อูย......น้ำของข้าพเจ้าไม่หยุดหลั่ง.....ท่.....ท่าน.....น....นะ.......นาง......พะ......ญา.....อ๋า......อ้า........โปรดเมต.......ตา............ไว้............”
ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็สิ้นชีวิตเสียก่อน
“พวกเจ้าเข้ามา”
ประมงเบ็ดเดียวเข้ามาพร้อมสมุนสี่ห้าคนพยักหน้าให้สมุนแบบร่างชายที่อดีตกำยำปัจจุบันผอมซีดเหลือแต่โครง “ข้าผู้น้อยมีเรื่องรายงานท่านรองประมุข”
“นำมาอีกสามคน ส่วนเจ้ามีอะไรก็ว่ามา”
มีชายสามคนรูปร่างกำยำไม่ใส่เสื้อผ้าแท่งทวนตั้งเด่เพราะฤทธิ์ยากำหนัด
“มาเข้ามาเลยพ่อหนุ่มมาจัดการข้าเลย”
นางพูดด้วยน้ำเสียงหยาดเยิ้มยิ่งปั่นป่วนยั่วยวนกวนอารมณ์ยิ่งนักนิ้วมือนางกระดิกเรียกร้องให้มาหานางอย่างเชิญชวนนางตอนนี้นอนตะแคงข้างบนโต๊ะเผยให้เห็นของเร้นลับเพียงเงาดำไม่ชัดเจนยิ่งเป็นภาพที่ยั่วยวนกวนสวาทแต่ได้หาส่งผลต่อประมงไม่ คนแรกพุ่งตรงนำแท่งทวนใหญ่ของมันเสียบไปที่ดอกไม้ของนางโดยแรงพับ พับ พับ นางได้แต่แอ่นอกเงยหน้าปากร้องซีดคนที่สองจับนางตะแคงแทงไปที่ก้นอย่างไม่ยั้งสวบ พับ พับ พับคนที่สามจับนางกระชากผมเอาแท่งเข้าปากอย่างไม่กลัวนางเจ็บมือก็บีบเค้นไปที่ฐานปทุมถันทั้งสามได้รับยากำหนัดจึงต้องการปลดปล่อยอย่างเร็วที่สุด สวบ สวบ พับ พับ พับ
“ข้าพเจ้าสืบทราบว่าชิ้นส่วนคัมภีร์ชิ้นที่สองอยู่ที่เกาะทางใต้ที่นินจาครอบครองอยู่”
ซีด..พับ พับ พับ....อือ.....ซีด.....อา...... สวบ สวบ สวบ ...อือ...อา.....พับ พับ พับ ทั้งสามชายหนุ่มต่างเร่งซอยอย่างไม่กลัวนางพัง พับ พับ พับ นางได้แต่บีบปทุมถันที่เหลือ มือหนี่งช่วยขยี้เกสรอย่างรุนแรง พับ พับ พับ สวบ สวบ สวบ
“ชิ้นที่สามจอมขโมยถูกคืนกลับเขาเหลียงซานโดยบุรุษหนุ่มหน้าแดงจากสายรายงานว่ามันสามารถรู้ทุกส่วนของคัมภีร์”
ทั้งร่างนางกระตุกอย่างแรงจนเห็นชัด อา....ซีด ....ข้าพเจ้า....ซีด.....อา......ซีด......อา.........โอะ........โอ้ย.....ทั้งสามชายหนุ่มรูปร่างกำยำต่างกระตุกพร้อมกันทั้งสามชายต่างพยายามเอาแท่งทวนออกจากเป้าหมายกับถูกดูด ตอด รัดอย่างรุนแรง ทั้งสามยืน แอ่น แท่งที่เสียบต่างถูกดูดอย่างรุนแรงทั้งหมดหน้าเหยเกจนร่างกายพวกมันซูบดั่งลูกโป่งถูกปล่อยลมดั่งเป็นซากชิ้นหนึ่งค่อยหลุดล่วงลงไป
“เจ้าว่ายังไงนะชายหน้าแดง เป็นไปไม่ได้ มันยังไม่ตายอีกเหรอ”
นางเสพกามเพื่อรักษาสภาพที่เหี่ยวย่นถึงเจ็ดสิบแปดคนไม่มีใครซักคนที่ทำให้นางได้ถึงสวรรค์แต่เพียงฟังว่าบุรุษหนุ่มหน้าแดงยังไม่ตายนางกับถึงสวรรค์ได้โดยง่าย นางทั้งแค้น ทั้งอยากแก้มืออีกครั้ง ดวงตานางมีประกาย
“จับมัน จับเป็นมัน ใช้ทุกวิธี นำมันมาให้ข้านำกำลังคนไปตามต้องการ ออกไปได้แล้วและนำชายหนุ่มมาให้ข้าอีกห้าคน ไป”
ประมงเบ็ดเดียวรับคำและเดินออกไปมีหลายครั้งที่ลูกน้องถามว่าทำไมประมงถึงรอดมาได้โดยไม่โดนนางดูดพลังประมงเพียงบอกสั้นๆว่า
“ก็แค่ตัดแท่งทวนทิ้ง...............”
“ซีด....อูย.....ของเจ้าคับแน่นเหลือเกิน”
“อ้า....ของท่านก็ใหญ่กว่าชายใดในแผ่นดิน....อูย....เบา เบา เดี๋ยวดอกไม้ข้าฉีก .... อูย ......ซีด....อูย”
“ซีด...มิน่า....เจ้าถึงมีชื่อเสียงนัก.....ซีด....อูย....จะเข้าหมดแล้ว อ้า ฮึบ”
เมื่อแท่งเข้าจนสุดลำชนบางสิ่งดัง กึก นาง ซูด ปากหน้าตาเหยเก มันค่อยๆถอนแท่งดาบอย่างช้าๆนางต้องแอ่นดอกไม้ตามจนเกือบปลายเงี่ยงดาบแล้วแทงพรวดไปที่เดิมอีกครั้ง นางได้แต่ร้องครวญคราง โอยครวญ ว่ารังแกข้าพเจ้า ปากร้องซีด ซาด การสวนเข้าออกอย่างช้าๆ สร้างความเสียวกระสันให้นางเป็นอย่างมาก มือของมันก็บีบที่ฐานปทุมถันจนนางต้องแอ่นตัวที่ทั้งเจ็บและเสียว นางต้องร้องบอกให้มันกระแทกแรง ๆ มันกับกดนิ่งบดแท่งดาบกับดอกไม้เอวส่ายไปมาให้แท่งดาบควงอยู่ในดอกไม้นางได้แต่ซูด ปากร้อง ซีด ซาดจากนั้นมันก็ถอนแท่งดาบจนสุดปลายเงี่ยงอีกครั้งแล้วแทงเข้าไปคราวนี้มันซอยอย่างรวดเร็วปลายดาบกระทบผนังดอกไม้ดังกึก กึก นางได้แต่เกาะแขนเล็บจิกไปที่แขนปากร้องให้กระแทกแรงแรง มันก็ซอยอย่างไม่ยั้ง จนนางกระตุกร้อง อ้า ออกมา น้ำค้างพร่างพรมไหลย้อยออกมา มันจับนางคุกเข่าแทงเข้าจากด้านหลังมือจับที่เอวซอยอย่างเร็วและแรงมือนางจิกหมอนหน้าตาบิดเบี้ยวร้อง อู อู อา อา จนนางตัวเกร็ง มันจับนางนอนตะแคงยกขาหนึ่งข้างพาดที่หัวไหล่มัน มันจับแท่งดาบของมันยัดเข้าไปที่ดอกไม้อีกครั้ง นิ้วข้างหนึ่งเขี่ยไปที่เกสรดอกไม้มันเริ่มซอย เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น จนร่างมันและนางกระตุก พร้อมกันมันนอนฟุบบนร่างนางเหงื่อไหลย้อยทั้งสองฝ่าย
“เป็นไงบ้างท่านหัวหน้านางดีหรือไม่”
มันได้ยินเสียงรู้ว่าเป็นใครมันกระโดดจากร่างนางมาคุกเข่าที่พื้นก้มหน้าทันที
“คาราวะท่านเจ้าสำนัก”
มีชายสวมชุดคลุมหน้าคาดด้วยสัญลักษณ์สีทองนั่งอยู่เก้าอี้ปลายเตียงไม่รู้ว่าเข้ามาเมื่อไรเป็นที่ทราบถึงพลังวรยุทธ์และวิชาตัวเบาไม่ธรรมดา
“ไม่ต้องมากมารยาทท่านทำงานได้ดีสมควรได้รางวัลแต่งานหลักไม่สำเร็จถึงแม้จะชดเชยด้วยคัมภีร์มหายุทธ์ก็เป็นแค่เศษเสี้ยวของมันเท่านั้น”
หัวหน้านินจาเงียบเพื่อรอรับคำสั่งต่อไปมันเรียนรู้ว่าวิถีนินจาข้อผิดพลาดคือความตายถ้าเจ้าสำนักกล่าวโทษมันมันมีแต่หนทางตายสถานเดียว
“ผู้ที่ไปจับตัวซากุระไม่มีใครกลับมาเราคาดว่าพวกมันคงตายหมด ฉะนั้นนี่คือหน้าที่ของเจ้าไปจัดการให้เสร็จสิ้น นำมันกลับมาทั้งเป็นอย่าให้พลาดอีก และถ้านำคัมภีร์ที่เหลือมาด้วยก็ยิ่งดี แต่ที่เราต้องการคือตัวนังซากุระจำไว้”เสียงยังไม่จบร่างก็หายไปโดยยังมีแว่วไกลให้พอหัวหน้านินจาได้ยิน
“เรายังมีเวลาให้เจ้าหนึ่งคืนจัดการนางที่รอเจ้าอยู่ให้หายอยากออกเดินทางตอนเช้า...........”
แป๊ะบ้อนอนหอบหายใจอยู่บนแขนของบ่อเมี้ยกระบวนการรักษาของพ่อหมอน้อยพานางเข้าเผ้าเซียนบนสวรรค์นับสิบครั้งแต่นางก็อดสูละอายที่ต้องเสียตัวให้แก่หมอหนุ่มเพียงแต่เพราะผลไม้ร้อนเย็นทำให้ลมปราณนางปั่นป่วนจนไม่สามารถบังคับหรือฝืนตัวเองได้ ตอนนี้ฤทธิ์ผลไม้เบาบางลง น้ำตานางได้ไหลริน สะอื้น เบาๆ จนบ่อเมี้ยรู้ตัวจึงพลิกตัวหันข้างนิ้วมือเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างกล่าวเบาๆ
“แป๊ะบ้อเจ็บหรือไม่”
นางส่ายหน้าน้ำตาหลั่งรินมือทั้งสองปิดหน้าร่ำร้องไห้
“เจ้า...ไม่....ฮือ....ทำกับเราอย่างนี้....ฮือ ฮือ”
“แป๊ะบ้อท่านฟังข้าพเจ้า ความจริงผู้ที่ธาตุไฟเข้าแทรกภายในหนึ่งปีสามารถใช้ให้ยอดฝีมือที่มีลมปราณบริสุทธิ์ควบคุมจากภายนอกผลักให้กระแสหมุนเวียนไปเกินกว่านั้นส่วนใหญ่จะเสียชีวิต แต่แป๊ะบ้อ ถูกธาตุไฟเข้าแทรกนานกว่า สิบปี โดยไม่เสียชีวิตซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน อาจเกิดพลังใจที่แป๊ะบ้อต้องการพบลูกที่พลัดพรากจึงมีพลังต่อต้าน แต่ทำให้ธาตุไฟฝังอยู่ในกระแสเลือดอยู่ทั่วร่างกายอีกไม่นานมันจะระเบิดออกมาถึงตอนนั้นต่อให้ท่านเจอลูกก็ไม่มีสิทธิ์รับรู้อะไร และในโลกนี้มีข้าพเจ้าคนเดียวที่รักษาท่านได้เนื่องจากตั้งแต่กำเนิดข้าพเจ้ามีพลังร้อนเย็นสองสาย และการรักษาท่านต้องอาศัยพลังธาตุเย็นขับจากภายใน หลังจากรักษาท่านข้าพเจ้าก็ต้องไปปรับเปลี่ยนลมปราณเป็นตายเท่ากัน”
นางมองหน้าบ่อเมี้ยที่อธิบายอย่างยืดยาวจนเข้าใจ ยิ่งดวงตาคู่นั้นบ่งบอกถึงความจริงใจแน่วแน่หาใช่โกหกเพียงเพื่อครอบครองร่างของนางก็หาไม่ อีกทั้งดวงตาคู่นี้ก็คุ้นเคยกับนางเป็นที่สุดเพียงแต่นางคิดไม่ออก แต่ปากยังบอกว่า เราไม่รู้จะสู้หน้าหงส์ยี้กับพิฆาตมังกรยังไง บ่อเมี้ยเพียรปลอบว่า
“ข้าพเจ้าไม่พูด ท่านไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้ ท่านเพียงบอกข้าพเจ้าใช้กำลังภายในรักษาท่านบวกกับผลไม้ร้อนเย็น แค่นั้น ซึ่งท่านควรรู้ไว้คนที่รักษาท่านความเป็นตายมีมากกว่าท่านเสียอีก......”
ช่วงนั้นบ่อเมี้ยเริ่มมองไปที่ร่างกายของนางที่นอนหงาย ปทุมถันอวบอั๋นยอดพธูชูชัน ปลายยังเป็นสีชมพูเรื่อ ๆ หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันสะโพกผาย แพรไหมมีคราบน้ำค้างพร่างพรมกลีบพูนูนโคกเต่าอาย ดอกไม้เผยออ้าออกเพราะพึ่งผ่านศึกเกสรกลีบดอกไม้ยังแดงสดไม่มีคราบดำ เรียวขายาวได้สัดส่วนเพียงซูบไปบ้างจากเจ็บป่วย “แป๊ะบ้อท่านสวยเหลือเกิน....”
นางกำลังตั้งใจฟังการปลอบประโลม และกังวลที่ว่าผู้ที่รักษานางอาจมีผลถึงตาย แต่ นางมองเห็นสายตาของบ่อเมี้ยดูร่างนางแววตาเปลี่ยนไป พร้อมพูดชมนาง ร่างกายของนางก็เกิดอาการร้อนทำให้กระตุ้นผลไม้ร้อนเย็น และธาตุไฟที่ฝังในสายเลือด เปลี่ยนให้ผิวขาวซีดของนางเป็นสีชมพูเรื่อย ๆ
“เรา...แก่...แล้ว.....”
มือของบ่อเมี้ยที่เช็ดน้ำตาวางพาดกับหน้าอกนางรับรู้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงจึงเลื่อนมือลูบหน้าอกนางอย่างจงใจบีบเบาที่ฐานของหน้าอกนั้นเล่นพธูขยี้เล็กน้อยนางก็แอ่นหน้าอกเงยหน้าปากร้องซีดปากของบ่อเมี้ย อมไปที่ยอดพธูอีกข้างหนึ่งใช้ลิ้นเขี่ยเล่นนางได้แต่จับหัวบ่อเมี้ยไว้มืออีกข้างของบ่อเมี้ยลูบไล้ลงไปที่พูดอกไม้ลูบไปที่พูเบาเบานิ้วค่อยๆเขี่ยยอดเกสรที่อยู่ยอดดอกไม้นางถึงกับแอ่นสะโพกโยกย้ายปากร้องซูด ซีด อา อยู่เนือง ๆ บ่อเมี้ยเขี่ยเกสรดอกไม้จากช้าเป็นเร็วนางก็ส่ายสะโพกขึ้นและลงตามจังหวะของนิ้วนั้นน้ำค้างเอ่อล้นเต็มดอกไม้ ก่อนที่นางจะเข้าเฝ้าเซียน บ่อเมี้ยหยุดมือ ยกขาข้างขวาของนางขึ้นนำขาขวาของบ่อเมี้ยค่อมทับขาซ้าย นำแท่งหยกสอดเข้าถึงแม้จะผ่านสงครามมาไม่นาน แต่ความแน่นกระชับ รัด ยังคงมีอยู่ซึ่งทำให้ทั้งนางและบ่อเมี้ย ซีด เสียว ร้องอูย พร้อม ๆ กัน เมื่อเข้ากระชับบ่อเมี้ยเริ่มซอยจากช้าๆ โดยมีมือเขี่ยเกสรดอกไม้ไปด้วย ปากก็อมลิ้นเลียรอบฐานปทุมถัน ยอดพธู นางได้แต่ร้องอา.... ซีด .... ซีด.... อา ... อา... ซึ่งการซอยแต่ละครั้งสร้างความเสียวกระสันรัญจวนให้นางและบ่อเมี้ยยิ่งนักทั้งคับทั้งแน่น นิ้วของบ่อเมี้ยก็เขี่ยที่เกสรด้วยความเร็วมากขึ้น ซอยแรงและเร็วขึ้นแท่งเสียบเข้าที่ดอกไม้ผลุบเข้าผลุบออกจนเกสรปลิ้นไปปลิ้นมา นางก็คราง อา อา อา อา อา ตามจังหวะการกระแทกของบ่อเมี้ยเมื่อความเร็วถึงขีดสุดนางเกร็งกระตุกรีบกระชากแขนที่เขี่ยเกสรออกแสดงให้เห็นว่านางถึงแล้ว.................
บ่อเมี้ยถอนแท่งหยกออกจากดอกไม้เผยคราบจากน้ำค้างจับจนมันเยิ้มจับนางมานั่งหน้าน้ำตกบ่อเมี้ยนั่งกับพื้นให้นางหันหลังนั่งยองๆนำดอกไม้สวมเข้ากับแท่งหยกนางสามารถเห็นผ่านม่านน้ำตกพวกเบญจมาศ โบตั๋น หงส์หยกกำลังเล่นน้ำ เนื่องจากในถ้ามืดกว่าข้างในสามารถมองเห็นข้างนอกแต่ข้างนอกไม่สามารถมองไม่เห็นข้างใน นางยิ่งตัวแดงฉานเกิดจากความอาย บอกบ่อเมี้ย ว่า อย่า ...ไม่.....เดี๋ยว.....เห็น... แต่บ่อเมี้ยจับเอวกดดอกไม้ของนางเข้าที่แท่งหยกอย่างช้าๆนางได้แต่กัดฟันส่ายหน้าทั้งเสียวทั้งอายยิ่งพวกหงส์หยกมาเล่นน้ำใกล้น้ำตกเลือดลมผสมความอายทำให้ร่างกายนางแดงฉาน บ่อเมี้ยขยับขึ้นลงจนได้ที่ร้องบอกให้นางยกตัวขึ้นลงนางอยู่กับสามีไม่เคยเจอสภาพนี้มาก่อนแต่อยู่กับหมอหนุ่มทำให้ในใจนางรู้สึกเร้าใจยิ่งนัก นางยกขึ้นลงตามหมอหนุ่มสั่งอย่างช้าๆเพราะความคับแน่นจนได้ที่ นางเร่งความเร็วในบางครั้งบ่อเมี้ยก็กระแทกสวนไปทำให้นางเผลอร้อง อูย จนนางต้องเงยหน้าแอ่นอกกัดฟันมือจับที่แขนบ่อเมี้ย สร้างความร้อนรุ่มให้แก่นาง แต่ก็สร้างความเสียวที่สุดยอดแก่นางเช่นกัน การกระแทกกระทั้นของนางเร่งความเร็วใบหน้าอันงดงามส่ายไปมาผมเผ้าที่รัดแนบแน่นบัดนี้ปล่อยสยายสะบัดไปตามแรงปากร้อง อูย....อูย....ซีด....ดี....เหลือเกิน....พ่อ....หมอ.....ซีด......ดี.....เหลือ.....เกินตอนนี้นางไม่สนใจว่าข้างนอกจะเห็นนางหรือได้ยินเสียงหรือไม่ นางเร่งในการซอย ปากร้อง อ้า อ้า อ้าบ่อเมี้ยก็ช่วยนางโดยจับเอวคอดของนางช่วยในการซอยอย่างไม่ยั้งแท่งหยกครูดกับดอกไม้อย่างรวดเร็วปทุมถันอันได้สัดส่วนยังไม่คล้อย เด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะการซอยก้นอันขาวนวลแสนงอนกระแทกที่หน้าท้องของบ่อเมี้ยไม่หยุดยั้งปากน้อยๆของนางส่งเสียงครางตามจังหวะการซอยบ่อเมี้ยจับนางนอนหงายไปที่ร่างของบ่อเมี้ยมือก็ขยำขยี้ไปที่ปทุมถันท่อนร่างก็ซอยอย่างถี่เร็ว อ้า อ้า อ้า อ้า อ้า เสียงนางร้องดังตามจังหวะที่บ่อเมี้ยซอย น้ำหล่อลื่นไหลย้อยอาบแท่งหยกจนมันแผ๊บกลีบดอกไม้สีแดงพลิกเข้าพลิกออกเกสรเสียดสีกับแท่งหยกอย่างไม่กลัวช้ำสุดท้ายนางตัวเกร็งมือจับมือบ่อเมี้ยแน่นบ่อเมี้ยพลิกตัวจับนางคุกเข่าหันหน้าเข้าน้ำตกบ่อเมี้ยเสียบจากข้างหลังอย่างแรงอาศัยน้ำหล่อลื่นจากน้ำค้างที่ไหลย้อยเต็มดอกไม้ นางได้แต่ร้อง อึยย์ ดังๆ บ่อเมี้ยโยกจากช้าๆเป็นซอยด้วยความเร็วนางได้แต่ร้อง อูย….อา อา อา อา อาหน้าของนางกระแทกไปที่ม่านน้ำตกทุกครั้งที่บ่อเมี้ยอัดแท่งหยกเข้าข้างในเสียงของนางดังสลับขาดหายตามแรงกระแทกนั้นใบหน้าของนางหลัง และไหล่ เต็มไปด้วยคราบน้ำที่เริ่มแปรสภาพเป็นไอตามกระบวนร่างกายที่เปลี่ยนแปลง แต่ปากนางยังร่ำร้องเสียงดังไม่หยุดยั้ง อา อา อา อา อา อาบ่อเมี้ยเองเมื่อใกล้จะถึงเผลอร้องออกมาประสานพร้อมกับนาง อา อา อา อา แป๊ะบ้อ อา อา อา อา อา แป๊ะ.....บ้อ และแล้วทั้งสองก็ส่งเสียงพร้อมกัน อะ...อ้าห์ห์ห์ห์ห์ ปึด พลังกระแสเย็นสายหนึ่งพุ่งพร้อมน้ำจากแท่งหยกเข้าไปในดอกไม้ พลังกระแสเย็นเข้าไปหมุนวน โคจรรอบกระแสเลือดละลายพลังธาตุไฟที่ฝังในกระแสเลือด ชักจูงให้ธาตุไฟที่แตกกระจัดกระจายเข้าไปจุดต่าง ๆ นางเองก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงร่างกายกระตุกทั้งเจ็บปวด ทั้งเสียวซ่าน ทั้งสบายพร้อมๆกัน คล้ายภายในร่างกายเกิดพายุหมุนวิ่งผ่านตามจุดต่างๆอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งพลังกระแสเย็นของบ่อเมี้ยเข้าไปหมุนเวียนถึงสามรอบจึงถอนแท่งหยกออกมาส่งเสียงหอบหายใจเบาๆว่า
“ปะ....แฮกแฮก...แป๊ะ.....แฮก....บ้อ ...แฮกแฮก.....พักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้....แฮก.....เราจะเริ่มใหม่.....”
หลังจากนั้นบ่อเมี้ยอุ้มนางไปที่พักในถ้ำน้ำตกส่วนตัวเองใส่เสื้อผ้าพุ่งออกจากม่านน้ำตกไป................
“เจ้ดอกท้อ เจ้ซากุระ ผลไม้นี่พอรึยังขมิ้นหนักแล้วนะ”
“แหมแค่นี้ทำเป็นบ่น ซาช่วยขมิ้นถือที”
“อ้าวแล้วดอกท้อไม่เห็นถืออะไรเลย”
“ฮิ ฮิ เราเป็นศิษย์พี่ ศิษย์น้องต้องทำตาม”
“ขี้โกงนี่”
สองเสียงประสานกัน การหยอกเย้ากระเซ้าเย้าแหย่สร้างความสนุกสนานให้แก่สามสาวที่อาสาออกจากที่พัก มาเพื่อหาอาหารเพิ่มเติม จริงๆอาหารแห้งที่มือพิฆาตเตรียมมาก็เพียงพออยู่แล้วเพียงสามสาวอยู่ในวัยซนหาเรื่องออกมาท่องเที่ยว โบตั๋นเห็นว่าออกมาสามคนเลยไว้วางใจให้ออกมา ซึ่งทั้งสามต่างสนุกสนานเที่ยวเล่นเก็บผลไม้ที่กินได้ ร้องเล่นแหย่ หัวเราะต่อกระซิกจอ จอ แจ แจ โดยหารู้ไม่มีสายตาคู่หนึ่งแอบมองและสะกดรอยตามอย่างกระชั้นชิด ในมือถือพัดที่รวบแล้วเล่มหนึ่ง กงซุนเป่ยนั่นเอง...................