จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 22 คืนที่ยาวนาน (เสียวสุดๆ)
นินจาที่หอบหิ้วซากุระมาที่ป่าไผ่หลังภูเขา นินจาคนนั้นวางซากุระอย่างเหนื่อยหอบแล้วยืนมองซากุระอย่างมีความหมายหน้ารูปไข่ขนตางอนยาวผมยาวสีดำจมูกกับปากเข้ากับใบหน้า ทรวงอกมีขนาดใหญ่หายใจขึ้นลงถ้าบีบก็คงเต็มมือเอวคอดสะโพกผายก้นงอนแขนและขาเรียวงาม ถ้านางไม่สลบเพราะฤทธิ์ยาคงเป็นการยากที่จะนำตัวมาเป็นๆเพราะฝีมือนางได้รับการถ่ายทอดจากเจ้าสำนักคนเก่าโดยตรง ถ้าไม่เพราะนางกุมความลับบางอย่างในสำนัก ท่านเจ้าสำนักคนใหม่คงไม่ย้ำนักย้ำหนาให้จับมาเป็นๆ ให้ได้ไม่ว่าจะสูญเสียเท่าใด เพราะเหตุนี้ทำให้ต้องสุญเสียเพื่อนพ้องที่ร่วมต่อสู้กันมาเป็นจำนวนมากเพียงต้องการให้ได้นางมาพอคิดถึงตอนนี้ นินจาคนนี้แค้นจนแทบมีไฟลุกในดวงตา
“ท่านเจ้าสำนักต้องการให้เราจับเป็นแต่ไม่ได้บอกให้อยู่ในสภาพใด ฮึ ฮึ ฮึ วันนี้เราจะเป็นผัวเจ้า”
พอพูดจบจัดการถอดเสื้อผ้านางออกแม้แต่เอี้ยมสีแดงก็ไม่ละเว้นเผยให้เห็นผิวขาวละลานตาปทุมถันโตเบ่งบานปลายพธูชูยอดตั้งขึ้นมีสีชมพูเอวคอดเล็กสะโพกผายใหญ่กลีบพูดอกไม้เรียงแนบชิดไหมสีดำถูกเล็มเป็นระเบียบปกคลุมกลีบดอกไม้นั้น มือของนินจาท่านนั้นลูบไล้ไปที่ใบหน้านั้นถึงทรวงอกอันใหญ่โตบีบอย่างแรง ซากุระร้องอือ ในลำคอแต่ยังนอนหลับเพราะฤทธิ์ยา ปากก้มลงดูดที่ปลายยอดพธูนั้นมือสองข้างบีบปทุมถันขยำขยี้อย่างมันมือ สวบ
นินจาคว้าดาบหันกลับไปข้างหลังชักออกทันที
“ใจเย็นๆหมายเลขสามเราเองหมายเลขห้ากับแปด”
“แล้วคนอื่นกับคัมภีร์ละ”
“ตามหัวหน้าไปพบท่านเจ้าสำนักแล้วเหลือแต่พวกเราท่านหัวหน้าให้เรามารับท่านแล้วท่านกำลังทำอะไรอยู่ อือ เรารู้แล้ว”
หมายเลขห้าและหมายเลขแปดถอดเสื้อผ้าออกทันที หมายเลขสามจึงเก็บดาบและลงมือถอดเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกันจากนั้นทำภารกิจที่ปทุมถันของซากุระอย่างมันมือ หมายเลขห้ามุ่งตรงไปที่ดอกไม้ของซากุระดมดอมไปที่ดอกไม้อือ หอมชื่นใจจับขาซากุระถ่างให้กว้างทำให้ดอกไม้แยกออกเผยให้เห็นเกสรดอกไม้ที่แดงพร้อมใช้ลิ้นเลียไปที่เกสรของดอกไม้ซากุระเหมือนรู้สึกตัวยกก้นให้ดอกไม้แนบชิดกับหน้าของหมายเลขห้าส่วนนินจาหมายเลขแปดของดีเพื่อนเอาไปหมดจึงเดินอ้อมมาที่ใบหน้าของนางที่หลับตาพริ้ม
“คงฝันดีสินะ”
จับบีบคางให้นางอ้าปากนำแท่งนินจาที่ตอนนี้ยังอ่อนตัวเข้าปากของนาง จับหัวของนางให้โยกอย่างช้า อือ นุ่ม อือ ดี .....ซีด.....อ...อูย.....โดนฟัน......อูย.....ซีด........เสียว........ทั้งสามนินจาต่างเร่งมือซากุระกระตุกร่างทั้งส่ายสะโพกบิดตัวด้วยความเสียวซ่านแต่ยังหลับตาอยู่หมายเลขสามนำมือของซากุระมาสาวที่แท่งของมันจนแท่งมันแข็งตัวจึงจับตัวซากุระคว่ำทับร่างมันในขณะที่ปากยังอมของหมายเลขแปดอยู่และสอดแท่งไปที่ดอกไม้ที่ตอนนี้เปียกชุ่มด้วยน้ำลายกับน้ำค้าง อือ แน่นกระชับดี เริ่มซอยอย่างช้าๆ หมายเลขห้าหงุดหงิดที่เป้าหมายถูกหมายเลขสามชิงตัดหน้า แต่เอ๊ะ ยังมีอีกรูนี่ มันจึงถ่มน้ำลายไปที่รูก้นเอานิ้วยัดนำร่องพร้อมถ่มน้ำลายไปเรื่อยๆจนมันคิดว่าได้ที่จึงนำแท่งของมันใส่เข้าไปในรูก้นนั้น อือ แน่น อือ อาจเป็นเพราะความเจ็บร่างของซากุระกระตุกอย่างแรงแต่ซักพักก็สงบอย่างเดิม ทั้งสามนินจาต่างซอยในแท่งของตัวเองระหว่างดอกไม้กับรูกันมีการเสียดสีเสียงดังเจ๊าะแจ๊ะหมายเลขสามจึงปล่อยให้หมายเลขห้าซอยตัวเองคอยเด้งรับทำให้เกิดความเสียวที่สุดยอด ทั้งสามต่างซอยเร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น หมายเลขแปดถึงก่อนชักออกจากปากให้น้ำจากแท่งของมันฉีดไปที่หน้าของซากุระ หมายเลขสามและหมายเลขห้าเห็นดีด้วยจึงชักออกจากรูพร้อมช่วยกันชักและพ่นไปที่หน้าของนาง หน้าของนางจึงเต็มไปด้วยคราบน้ำที่ออกมาจากแท่งของพวกมัน ขณะที่ทั้งสามเงยหน้าหลับตาปลดปล่อยตามความต้องการของร่างกายอยู่นั้นปรากฏว่ามีพัดหมุนมากรีดคอหอยหมายเลขแปดและพลังฝ่ามือฟาดไปที่จุดตายที่หมายเลขสามและหมายเลขห้า ทั้งสามตายโดยไม่มีใครรู้ตัวโดยมีใบหน้าที่มีความสุข ผู้ที่โผล่ออกมาคือกงซุนเป่ยซึ่งก็ได้รับคำสั่งจากสมาพันธ์ให้ติดตามคัมภีร์ความจริงกงซุนเป่ยมาตั้งนานแล้วแต่มีเหตุผลสองข้อข้อแรกนินจาทั้งสามมีฝีมือไม่ใช่ย่อยถ้าขืนสู้ไปตัวเขาเองบาดเจ็บไปด้วยซึ่งกงซุนเป่ยยอมให้ตัวเองบาดเจ็บไม่ได้ประเด็นที่สองกงซุนเป่ยเองก็อยากจะดูบทโรมรันพันตูว่าเป็นฉันใด ตอนนี้ซากุระนอนหงายหายใจรวยรินหลับตาพริ้มแต่ทั้งหน้าตากับเต็มไปด้วยเมือกขาวไหลย้อยเข้าจมูกและปากปทุมถันเป็นจ้ำรอยแดงจากการบีบขยำ แขนกางออกจากลำตัวดอกไม้เผยออ้าขาถ่างผมเผ้าสยายภาพเหล่านี้เป็นภาพที่กงซุ่นเป่ยไม่มีวันลืมแน่แต่ตอนนี้กงซุนต้องจัดการกับกงซุนน้อยที่แข็งตัวประท้วงตั้งแต่ได้เห็นภาพโรมรันพันตูสาวน้อยกับสามนินจาแล้วกงซุนเป่ยรีบแก้กางเกงออกเจ้ากงซุนน้อยดีดผงาดขึ้นมา จึงนั่งคุกเข่าจับขาของซากุระให้อ้าออกแล้วนำกงซุนน้อยเข้าไปโดยแรง สวบ
“อือ โดนไปเยอะยังแน่นกระชับบีบรัดอีก อือ ดีจริงๆ”
ซากุระร่างกระตุกอีกครั้งกงซุนเป่ย เร่งจังหวะซอยอย่างไม่ยั้งมือข้างหนึ่งก็บีบไปที่ปทุมถันอย่างเต็มที่ ปากก็ดูดและกัดไปที่ยอดพธูของซากุระจนเลือดออก จนซากุระร้องครางออกมาตามที่ร่างกายฟ้องว่าเจ็บ
“อีนังโคมเขียว อ้า ....อีสัตว์.....อึบ........อีชาติไพร่.......อ้า.......ของมึงดีจริงๆซีด.....อูย...........อีนังสารเลว.......อ้า.......อีแพศยา.....กงซุนเป่ยเร่งจังหวะปากก็ด่า มือบีบเค้น บางครั้งยังกัดที่หัวนม ทั้งสองข้าง เมื่อจังหวะใกล้สุดท้ายกงซุนเป่ยกัดไปที่หัวไหล่พร้อมซอยไม่ยั้งน้ำจากกงซุนน้อยพุ่งเข้าดอกไม้เต็มแรงเลือดที่ไหลจากไหล่ก็ไหลย้อยออกมากงซุนหอบหายใจกระซิบข้างหูซากุระ
“เจ้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เจ้าจะไม่มีวันลืม ฮะ ฮะ ฮะ”
กงซุนเป่ยใส่เสื้อผ้าและเดินจากไปปล่อยให้ซากุระนอนอยู่อย่างนั้นถ้าสังเกตดีๆจะเห็นน้ำตาของซากุระที่ไหลออกมาคืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานของเธอจริงๆ
บ่อเมี้ยเดินกลับมาถึงที่พักยามสี่กว่าแล้ว บ่อเมี้ยนึกถึงศึกรวมร่างกับขมิ้นกับหงส์หยกเกือบสองชั่วยาม(หนึ่งชั่วยามมีสองชั่วโมง)จึงชวนขมิ้นและหงษ์หยกกลับที่พักขมิ้นน้อยบอกไปหาซือแป๋ก่อนนางเดินขากางจากไปบ่อเมี้ยนึกสงสารอยู่ในใจจึงเดินทางมากับหงษหยกนางเองก็เดินไม่ค่อยไหวหมดแรงบ่อเมี้ยจึงอุ้มนางมาตลอดทางระหว่างเดินทางพลังเย็นก่อกำเนิดอีกแล้วจึงจับหงษ์หยกอุ้มข้างหน้ามือกอดคอถอดกางเกงขากอดเอว นางได้แต่ตาเหลือกส่ายหน้าแต่ช้าไปแล้วนางได้แต่เตรียมรับกระบวนท่านั้นจนใกล้มาถึงที่พักซึ่งคืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานของหงส์หยกที่จะไม่มีวันลืมเมื่อคลายพลังเย็นบ่อเมี้ยจึงอุ้มเข้าที่พักของนางดูเหมือนนางจะเดินขัดๆพิกลนำส่วนหนึ่งของคัมภีร์เข้าที่พักไป เมื่อบ่อเมี้ยมาถึงที่พัก โบตั๋น เบญจมาศ ดอกท้อ ซากุระ สี่ดอกไม้ล้วนไม่มีใครอยู่ทำให้เกิดความสงสัยแก่บ่อเมี้ยยิ่งนักแต่ก็คาดว่าคงไปตามหาตนเช้าคงเข้ามา เมื่อสี่ดอกไม้ไม่อยู่แต่พลังกระแสเย็นอาจกำเริบเมื่อไรก็ได้ตอนนี้บ่อเมี้ยเองใช้พลังความร้อนที่ได้จากหงส์หยกและขมิ้นสามารถย่อยสลายได้ส่วนหนึ่งถ้าบ่อเมี้ยปรับให้เกิดความสมดุลได้เมื่อใดก็จะกลายเป็นผู้มีพลังวัตรระดับสูงเลยทีเดียว แต่เอ๊ะสี่ดอกไม้ไม่อยู่ แต่มีอีกหนึ่งดอกไม้นี่ ใช่แล้วแม่ชีตันหยงจึงไปที่ห้องของแม่ชี ว๊ะ ล็อค
อ้อมไปที่หน้าต่าง อืมเปิดจึงปีนเข้าไปและล็อดหน้าต่างอย่างแน่นหนา ตอนนี้แม่ชีตันหยงนอนหลับพักผ่อนภายใต้ผ้าแพรสีแดงลมหายใจสม่ำเสมอแสดงว่าหลับสนิท บ่อเมี้ยจึงมุดเข้าผ้าห่มจากทางปลายขาของแม่ชี ว๊าว แม่ชีเพียงใส่ชุดคลุมหลวมกว้างไม่ได้ใส่กางเกงคงเป็นหลังจากบ่อเมี้ยรักษาเสร็จก็ใส่ชุดคลุมนอนแค่นั้น บ่อเมี้ยจึงมุดเข้าไปในเสื้อคลุม ตอนนี้พลังวัตรของบ่อเมี้ยสามารถถึงขั้นประกายตาราตรี คือสามารถมองกลางคืนเหมือนกลางวัน ภาพที่เห็นพูขนาดใหญ่ที่ดูกี่ครั้งยังประทับใจเรียบปิดสนิทดั่งไม่เคยผ่านสงครามมาก่อนทั้งที่รับศึกหนักเมื่อตอนกลางวัน(ไปอ่านย้อนต้นเอาเองนะ)ซึ่งซือแป๋เคยสอนเป็นภาพวาดลักษณะแบบนี้เรียกพูสวรรค์จะให้ความสุขแก่ผู้ที่เสพซ้องมากที่สุดแต่มีอุปสรรคขวากหนามที่ยุ่งยากที่สุด ซึ่งกระบวนการนี้ไม่มีใครผ่านแต่บ่อเมี้ยผ่านความยุ่งยากนั้นไปแล้ว บ่อเมี้ยเห็นแล้วแท่งหยกแข็งดันกางเกงอีกแล้ว เอ๊ะ กระแสความเย็นยังไม่กำเริบแต่ทำไม บ่อเมี้ยไม่สนใจตอบคำถามถอดกางเกงตัวเองออกจากนั้นก็ใช้มือจับให้ขาถ่างออกใช้ลิ้นเลียไปที่ดอกไม้ช่อนั้น
“เอ๊ะใครกัน”
นางเปิดผ้าห่มเห็นคนรักของลูกศิษย์มาแอบกินดอกไม้ของนางอยู่
“.จะ...เจ้า.......ซีด......เจ้า.....จะ......อูย......จะ.....อูย........ทำอะไร....ซีด ....อ.......อูย.......อ........อย่า..........อ........อูย..........อย่า............แต่มือของแม่ชีกดไปที่ศีรษะของบ่อเมี้ยสะโพกส่ายเอวดิ้นพราด ยกก้นขึ้นและลง อูย.......ซีด.....อ.......อา...........อา..........อ้า.”
นางรีบยกศีรษะบ่อเมี้ยพร้อมบอกพอก่อน ปากบ่อเมี้ยเต็มไปด้วยน้ำค้างของดอกไม้แต่ยังแย้มยิ้ม
“ซือแป๋ศิษย์โดนนางพญาเซี่ยววี่ใช้พลังเย็นทำร้าย ศิษย์ต้องอาศัยพลังความร้อนจากซือแป๋รักษา”
นางยอมตั้งแต่บ่อเมี้ยยิ้มแล้วจึงหลับตาหน้าตาแดงฉาน บ่อเมี้ยเห็นไม่ตอบถือว่าอนุญาต บ่อเมี้ยรีบถอดชุดที่หลวมกว้างของนางออกซึ่งนางก็ร่วมมืออย่างดีเพียงแต่ไม่ยอมลืมตาเท่านั้น บ่อเมี้ยจูบที่ปากน้อยๆของนางนำลิ้นเข้าไปพัวพันแรกๆแม่ชีอ้าปากรอรับเฉยไปไปมามาก็นำลิ้นมาพัวพันมือของบ่อเมี้ยสำผัสปทุมถันบีบเบาๆเอาปลายนิ้วเขี่ยรอบยอดพธูนั้นปากบ่อเมี้ยงับไปที่ติ่งหูเบาๆและไซ้มาที่ซอกคอ แม่ชีบิดร่างไปมาด้วยความเสียวสะท้านลิ้นยังทำงานไล่ลงมาถึงปทุมถันอมและวนรอบกระดกลิ้นขึ้นและลงรอบปทุมถันนั้นมือปีศาจคืบคลานไล่นิ้วเบาๆตั้งแต่หน้าอก เอว จนมาถึงดอกไม้สร้างความเสียวให้แก่แม่ชีจนต้องซูดปาก มือปีศาจใช้นิ้ววชิระเขี่ยแหย่อีกครั้งครั้งนี้ถึงแม้จะมีน้ำค้าพร่างพรมเต็มดอกไม้แต่ก็ได้รับการตอบโต้บีบ รัด ตอด นิ้ววชิระก็เขี่ย แหย่ เร่งความเร็วสู้ ร่างกายแม่ชีก็เด้งสะโพกรับจนสุดท้ายนางใช้สองมือกระชากมือปีศาจนั้นออกมา บ่อเมี้ยจึงจับขานางถ่างเอาแท่งหยกเสียบเข้าไปอย่างช้าๆ ถึงแม้เคยเข้ามาสำรวจและเป็นพันธมิตรกันแล้วแต่ดูเหมือนยังจำกันไม่ได้ ดอกไม้ของนางบีบกระชับ แน่นเหมือนไม่มีอะไรเคยผ่านมาก่อน บ่อเมี้ยได้แต่คราง แต่ก็ดันเข้าจนสุดลำ แม่ชีได้แต่คราง ฮือ ฮือ แอ่นอกเงยหน้า มือจับหมอนแน่น กัดฟัน บ่อเมี้ยจับเอวของนางและเริ่มซอยอย่างช้า ๆ แม่ชีผวามือจับที่แขนของบ่อเมี้ย บ่อเมี้ยก้มทับจูบที่ซอกคอท่อนล่างยังซอยอย่างมีจังหวะช้า ๆ มือสอดไปใต้แขน แม่ชีจึงกอดเล็บจิกไปที่หลังของบ่อเมี้ย บ่อเมี้ยเริ่มเร่งจังหวะ นางเริ่มครางเสียงดังบ่อเมี้ยนำผ้ามัดให้นางกัด แต่ตัวบ่อเมี้ยเองก็ใกล้แล้วจึงเร่งความเร็ว เร่งอีก เร่งอีก เร่งอีก ปึด เสร็จแล้ว นางเองก็ถึงพร้อมๆกันกับบ่อเมี้ย ตอนนี้พลังความเย็นแผ่พุ่งเข้าสู่ร่างของแม่ชี นางรู้อัตโนมัติว่านี้คือพลังเย็นของนางพญาเซี่ยงวี่ไม่รู้บ่อเมี้ยสามารถรอดได้อย่างไรคิดส่วนคิดนางนำพลังความเย็นไปหมุนเวียนรอบกระแสโลหิตของนางและเปลี่ยนด้วยพลังวัตรเป็นกระแสความร้อนแล้วส่งคืนกลับให้แก่บ่อเมี้ย บ่อเมี้ยสะดุ้งสุดตัวส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นขมิ้น หงส์หยก เมื่อเขาส่งกระแสเย็นเข้าร่างกายจะวนกลับมาโดยเปลี่ยนแปลงสร้างความอบอุ่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้กระแสความเย็นที่แทรกซึมจึงประทุขึ้นมาเรื่อย ๆแต่ที่แม่ชีทำให้กับสร้างกระแสความร้อนที่ร้อนแรงทำให้เขาสามารถสร้างความสมดุลแก่พลังวัตรได้เมื่อเขาทำได้แม่ชีก็น่าจะได้เหมือนกัน จึงจูบไปที่แก้มของนางกระซิบเบาๆด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
“ซือแป๋ที่รักข้าพเจ้าขาดท่านไม่ได้”
นางก็ยิ้มให้เขาเป็นรอยยิ้มที่สร้างความอบอุ่นยิ่งนัก จากนั้นจับนางคุกเข่าท่านี้เป็นท่าที่เข้าลึกที่สุดเพื่อที่พลังวัตรจะได้ประสานพลังมากที่สุด คราวนี้บ่อเมี้ยเสียบจากข้างหลังแรง ๆ นางเผลอร้อง อ๋าย บ่อเมี้ยเริ่มซอยอย่างเร็วและแรง นางได้แต่ก้มหน้ากัดฟันมือจิกหมอนจนกระทั้งบ่อเมี้ยพุ่งกระฉูดคราวนี้พลังความเย็นที่ยังคั่งค้างของบ่อเมี้ยหมุนเวียนกับนางถึงสามรอบแล้วค่อยแปลงเป็นพลังร้อนบ่อเมี้ยก็รับจากนางหมุนเวียนตามจุดต่าง ๆสามรอบจนพลังวัตรตัวเองเข้าที่และสมดุลจึงถ่ายคืนกลับไป นางตกใจหันกลับมาแต่ก็ยิ้มรับ กลายเป็นการเดินลมปราณร่วมกันระหว่างซือแป๋กับศิษย์ที่ไม่มีใครสามารถทำได้ทำให้ข้อบกพร่องต่างๆ ของ กระแสพลังของแต่ละคนถูกปรับแม่ชีกับบ่อเมี้ยจะมีพลังวัตรที่สูงขึ้น มั่นคงขึ้น กว่าเดิม การเดินลมปราณร่วมคงจะใช้เวลาแม่ชีตันหยงรู้ดีว่าคืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานสำหรับนางแน่นอน