XXXกับสาวอิสลาม
ผมเป็นพุทธได้ร่วมงานกับสาวอิสลาม จากการทำงานทำให้เรามีความสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ผมก็แอบกระเซ้าเย้าแหย่ไปตามนิสัยของผู้ชายว่า ...รูปร่าง...หน้าตาก็ดี...มีแฟนรึยัง หล่อนก็บอกว่า...ยัง... จากนั้นความสัมพันธ์ของสองเราก็แน่นแฟ้นมากขึ้น
จนกระทั่ง...วันหนึ่ง ณ ที่ทำงาน...
คนอื่นๆ กลับไปหมดแล้ว ส่วนตัวผมยังเคลียร์งานที่คั่งค้างอยู่ เจ้าหล่อนก็ทำงานง่วนอยู่ไม่ไกลนัก ผมก็เดินเข้าไปหา...พูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อยๆ...จากนั้นก็ถือโอกาสที่ปลอดคนจับมือ...ถือแขนหล่อนบ้างขณะที่พูดคุยกัน...เจ้าหล่อนก็เหนียมอายบ้าง
ผมก็เลยชักชวนเธอไปดูงานที่ห้องใกล้เคียง...ซึ่งห้องนั้น ลับหูลับตาพอสมควร...เจ้าหล่อนอาจจะด้วยความซื่อ...หรือมีอารมณ์ก็ไม่ทราบได้...ก็ตามผมไป
เมื่อเดินไปถึงห้องใกล้เคียงแล้ว...ผมก็ถือโอกาสดึงเธอมากอด...จูบ...ผมระดมจูบ พรมไปทั่วใบหน้า ในตอนแรกเธอตกใจมาก มีทีท่าว่าจะร้องโวยวาย...ผมก็เลยปิดปากเธอด้วย Mouth to Mouth กับหล่อน...ใช้ลิ้นซอกซอนเข้าไปในทุกส่วนของปากตั้งแต่ลิ้น...ฟัน...กระพุ้งแก้ม...หล่อนเนี้ยตัวสั่นเทิ้มเชียวแหละ…อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของผม
จากนั้นผมก็ค่อยๆ ประคองเธอมายังที่ที่ต้องการ...ระดมจูบอย่างละเลียดพรมใบทั่วใบหน้าและใช้ Mouth to Mouth กับเธอ...ใช้เวลาไม่นานนัก ก็ค่อยๆ ซอกไซ้มายังต้นคอของเธอ หล่อนเนี้ยหลับตาพริ้มเชียว มือไม้ของผมก็ควานไปทั่ว...จนพบภูเขาขนาดย่อมๆ อยู่...ก็เลยทำหน้าที่เป็นนักสำรวจ ค่อยๆ ลูบไล้ พร้อมทั้งสังเกตปฏิกิริยาของหล่อน...เมื่อเธอไม่มีทีท่าปฏิเสธ...ผมก็เลยคลึง เคล้าหนักขึ้นเรื่อยๆ จนขยำ ขยี้ในที่สุด...หล่อนถึงกับละล่ำละลักไม่เป็นภาษาเชียวแหละ...ผมก็เลยปลดกระดุมเสื้อของเธอออก เพื่อให้ปฏิบัติการเร้าใจยิ่งขึ้น...ขณะที่มือไม้ปลดกระดุมเสื้อ...ปาก & ลิ้น ก็ทำหน้าที่อย่างไม่บกพร่อง
เมื่อถอดเสื้อของเจ้าหล่อนออกหมดแล้ว...แม่เจ้าโว้ย...หัวนมเนี้ยยังแดงระเรื่ออยู่เลย...ผมก็เลยละเลงลิ้นไปทั่วนมเชียว...จากนั้นก็ดูด...กัดเบาๆ พร้อมดึง...หล่อนถึงกับแอ่นอก...ครางเลยแหละ
ผมก็เลยย่ามใจ...ละเลงลิ้นต่ำลงมาถึงท้อง...เรื่อยไปจนถึงท้องน้อย...ส่วนมือไม้ก็ขยำ...ขยี้สองเต้าของเธอหนักขึ้นๆ...จากการสังเกตท่าที...หล่อนครวญครางเบาๆ...มือไม้ขวักไขว่ไปทั่ว...จนในที่สุดก็มาจับไหล่ผมแน่นเชียว
เมื่อบรรยายเป็นใจ...ไร้รบกวน...ผมก็จัดการเปลื้องกระโปรงของเธอออกโดยที่เธอก็ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี...จากนั้นผมก็ทำตัวเป็นนักสำรวจตัวยง...บรรเลงลิ้นละเลียดลงต่ำไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงสามเหลี่ยมทองคำ...เปรียบเสมือนกันนักบินที่ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีนัก...ผมก็เลยต้องเอาลิ้นวนไปมาเบาๆ ก่อนที่จะหาที่ร่อนลงที่สามเหลี่ยมทองคำของเจ้าหล่อน
เมื่อถึงสามเหลี่ยมทองคำของเธอ...ภูมิทัศน์เป็นลานโล่งเหมาะแก่การลงจอด (เนื่องจากหนุ่ม+สาวอิสลามมีความเชื่อว่าควรที่จะขลิบ ตัด หรือโกนขนให้เรียบร้อย) ผมก็ค่อยๆ ละเลงลิ้นไปยังปุ่มกระสันของหล่อน (ปรากฏว่าปุ่มกระสันของเธอถูกขลิบให้สั้นลง เนื่องมาจากความเชื่อทางศาสนาอิสลามว่า ถ้าขลิบปุ่มกระสันให้สั้นลงจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลงไปด้วย) ผมต้องซุกลงไปอย่างเต็มที่แล้วบรรเลงบทช่างทาสีที่ชำนาญ...ปัดซ้าย...ป่ายไปทางขวา...สักครู่...หล่อนครวญคราง...เสียงสั่นเชียว
ขณะที่รับบทเป็นช่างทาสี ผมก็ถอดกางเกง ซึ่งขณะนั้นหมดความจำเป็นที่ต้องใช้ออกจนหมด โดยที่หล่อนไปทันสังเกต...จากนั้นก็ใช้มือช่วยบรรเลงเป็นช่างปั้น...ขยำ...ขยี้ไปด้วย...ผมละเลียดเลียปุ่มกระสันจนหนำใจแล้วก็ค่อยๆ ไต่เพดานบินลงด้านล่าง เอาลิ้นชอนไชไปทั่วทั้งนอกและในหลุมอวกาศ...หล่อนเกร็ง...เด้ง...ไปทั้งตัว...จนกระทั่งหล่อนดึงแขนผมขึ้นข้างบน
ผมเลยบรรเลงเพลงจูบปากเธอให้ดูดดื่ม...จนหล่อนกอดรัดผมแน่น...อา...เวลา นาทีทองมาถึงแล้ว...ผมก็ค่อยๆ บรรจงเอาเจ้าหนูของผมหย่อนลงหลุมอวกาศ...พอบรรจงใส่ลงไปเท่านั้นแหละ...หล่อนครวญครางว่าเจ็บ...อูย.....เจ็บค่ะ....อูย.....อายยยย
ผมก็เลยต้องบรรจงจูบ...ไซ้ต้นคอ...เพื่อให้หล่อนลืมความเจ็บปวด...พอหล่อนเริ่มมีอารมณ์ร่วมอีกครั้ง...ผมก็ใส่เจ้าหนูลงไปอีกครึ่งหนึ่ง....อูยยยยย.....อาาาาา....อูๆๆ....แน่ะหล่อนเริ่มทนได้แล้ว...จากนั้นผมเริ่มขยับเบาๆ...หล่อนร้องครางเบาๆ...ผมเลยดันเจ้าหนู...เข้า...ออก...ช้าๆ
ไม่นานนัก...หล่อนกอดรัดผมแน่น...เมื่อผมจะดึงเจ้าหนูออก...หล่อนเริ่มขยับตะโพกตาม...ผมเลยกระแทกเจ้าหนูจนจมมิดเลย...อูยยยยย อายยยย เสียวค่ะ...เมื่อมีปฏิกิริยาตอบรับเต็มที่...ผมก็โหมบรรเลงเต็มสูบ (เดี๋ยวเจ้าหล่อนจะเสียวซ่านน้อย เนื่องจากปุ่มกระสันถูกขลิบ) หล่อนครวญครางดังลั่นเชียวแหละ...บรรเลงเพลงกลกามสักพักใหญ่...เราทั้งคู่ก็ขึ้นสวรรค์เลยเชียวแหละ
จากนั้น...เมื่อปลอดคน...บรรยากาศเป็นใจ...เราก็บรรเลงเพลงรักกันเป็นประจำ
จวบจนกระทั่ง...หล่อนย้ายไปทำงานที่อื่น...ในระยะแรกผมยังคงไปหาเธอบ่อยๆ...เราไปบรรเลงเพลงรักกันตามม่านรูด...บางครั้งก็ที่บ้านพักของเธอ...ระยะหลังเราห่างเหินกันมากขึ้น...แต่ฉันยังจำบทเพลงรักของเราได้เสมอนะ