จอมแพทย์นิรนาม ภาคสอง(ตอนที่ 1 หมอสามอีแปะ) (เล่าเรื่องเสียว)
ตะวันโพล้เพล้เลียบริมแม่น้ำมีชายชุดสีขาวสวมหมวกกุ๊ยปิดบังโฉมหน้ามือขวาถือถือธงทั้งเป็นไม้เท้าธงเขียนด้วย
สีแดงชาดสดใสลายมือมีพลังเข็มแข็ง อักษร เขียนเพียงสามพยางค์ “สามอีแปะ” สามอีแปะเป็นเพียงราคาหมั่น
โถว(ซาลาเปาไม่มีไส้)หนึ่งลูกพร้อมน้ำชาเท่านั้นนับว่าราคาถูกอย่างเหลือเชื่อแต่ชายผู้นี้ขายอะไร ทั้งร่างหาได้มี
สินค้าใดไม่ แต่กับเป็นที่เลื่องลือทั่วทุกหมู่บ้านริมแม่น้ำ ว่าเป็นหมอเทวดา ทุกโรคเรื้อรังหรือไม่ต่างหายดีจะมี
เพียงยังไม่ถึงมือหมอคนไข้สิ้นใจตายเท่านั้นที่หมอเทวดาผู้นี้ไม่สามารถชุบชีวิตได้ เพียงแต่หมอเทวดามีนิสัยไม่
อยู่กับที่เพียงสองสามวันก็ออกจากหมู่บ้านไป และมักตั้งคำถามแปลกประหลาดแก่ชาวประมงที่อยู่ติดริมแม่น้ำว่า
“เมื่อสิบแปดสิบเก้าปีมีลูกผู้ใดถูกจับไปอยู่บนเรือที่ลุกไหม้หรือไม่” ซึ่งชาวประมงที่อยู่กันมาชั่วชีวิตต่าง ปฎิเสธ
กันหมด ท่านหมอผู้นั้นก็ไม่ซักถามหรือพูดอะไรอีก ชาวหมู่บ้านริมแม่น้ำมักมีอาชีพประมงบางทีโชคช่วยได้ปลา
มามากก็กินอิ่มหนำวันใดได้ปลามาน้อยก็เก็บผักเก็บพืชหากินกันไป ในบางครั้งเจ็บป่วยก็รักษากันตามมีตามเกิด
เมื่อมีหมอมาจึงยิ่งกว่าได้ทรัพย์สมบัติมหาศาล วันนี้ขณะที่ท่านหมอเทวดากำลังเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งริม
ทะเล ก็มีเสียงร้องเรียกดังลั่น “พ่อหมอ พ่อหมอ โปรดหยุดก่อน” ชายที่ถูกเรียกว่าหมอหยุดและหันมามองเห็น
ชายชราผู้หนึ่งวิ่งมาอย่างกระหืบกระหอบ เมื่อมาถึงหน้ายังก้มตัวต่ำหอบหายใจ ชายที่ถูกเรียกว่าหมอจึงบอกด้วย
น้ำเสียงนุ่มนวล “ใจเย็นๆท่านผู้เฒ่า มีเรื่องอะไรค่อยพูดกัน พักเสียก่อน” “แฮก แฮก .. ท่าน.. แฮก....ใช้ ...หมอ
เทวดาผู้โด่งดังหรือไม่” “ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นหมอ แต่หาใช้เป็นเทวดาหรือผู้โด่งดังดั่งคำกล่าวอ้างไม่” “โชค
แล้วสวรรค์เมตตา เตี๋ยมยี้แล้ว พ่อหมอ พ่อหมอ ไปที่บ้านของเราก่อน เตี๋ยมยี้ เอ่อ ลูกของเราป่วย มีเลือดไหล พ่อ
หมอ เร็วเถอะ” “ท่านผู้เฒ่ารีบนำทางเถอะ” ชายชรารีบนำทางปากยังพร่ำบ่น “เรามีลูกคนเดียวรักดั่งดวงใจ ไม่
เคยให้มันได้ทำอะไร แต่ทำไม ช่างโชคร้ายเสียจริง แม่นางมันก็มาเสียไปตอนเตี๋ยมยี้เกิดมา แต่ตอนนี้โชคดีที่พ่อ
หมอโผล่มาต้องกราบไหว้เทวดา.......” ชายชราก็บ่นจนพาหมอไปพบที่บ้านเล็กๆหลังหนึ่งรอบๆบ้านปลูกพืชผัก
สวนครัว มีไก่สองสามตัวเดินคุ้ยเขี่ยอาหาร ข้างบ้านมีปลาตากแห้งกลิ่นตลบอบอวนไปหมด ชายชราก็พาหมอเข้าไปที่ห้อง สภาพที่เห็น โก้วเนี้ยน้อยอายุราว 12 – 13 ปี นอนตัวงอมือกดท้องบิดตัวเองไปมา มีเลือดไหล
เปียกชุ่มกางเกง “เตี๋ยมยี้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เตี๋ยมยี้ เตี๋ยมยี้” “ท่านผู้เฒ่า จุดไฟต้มน้ำร้อน เอาหินกลมๆขนาดกำ
มือเผาไฟให้ข้าพเจ้าด่วน” “ได้ ได้” ชายชรารีบออกไปต้มน้ำอย่างรวดเร็ว พ่อหมอตามที่ชายชราเรียก เดินเข้า
ไปหาโก้วเนี้ยน้อยนางนั้น สกัดจุดมิให้เคลื่อนไหว และสกัดจุดเพื่อลดการเจ็บปวด จากนั้นพ่อหมอก็จับชีพจรของ
นาง โก้วเนี้ยน้อยเดิมหลับตาส่ายหน้าไม่หยุดยั้งตอนนี้ได้แต่หอบหายใจลืมตากลมโตใสมามองด้วยสำนึกตื้นตัน
ปากน้อยๆของนางอ้าตามแรงหอบหายใจ “ข้าพเจ้าเป็นหมอ ข้าพเจ้ามารักษาท่าน เตี่ยท่านไปตามข้าพเจ้ามา ท่าน
สามารถตอบคำถามข้าพเจ้าได้หรือไม่” นางพยักหน้า “ท่านเคยเป็นแบบนี้หรือไม่ “ไม่ข้าพเจ้าพึ่งเป็นครั้งแรก
เจ็บปวดแทบตาย ข้าพเจ้าจะตายไหม เตี่ย เตี่ย ข้าพเจ้าอยู่คนเดียวคงเหงาแย่เลย”..........................
“แม่นางน้อยท่านไม่เป็นอะไรหรอก นี่เป็นการผลัดใบจากเด็กเป็นสาว” นางได้ฟังหน้าแดง “ข้าพเจ้าก็เป็นสาว
แล้ว เตี่ยบอกข้าพเจ้าไม่ใช่เด็กนะ” ทั้งกิริยาทั้งท่าทางไร้เดียงสาเจ้าแง่แสนงอนทำให้หมออดหัวเราะไม่ได้ “ได้
ได้ ท่านเป็นสาวแล้ว เอ้าเตี่ยท่านมาพอดี” “ได้แล้วพ่อหมอ นี้น้ำร้อน นี่หิน ท่านจะเอาไปทำอะไรน่ะ”
“ข้าพเจ้าขอผ้าสะอาดซักสามสี่ผืน” เมื่อได้ผ้ามาก็ให้เตี่ยของเตี๋ยมยี้ออกไปก่อน จึงปลดกางเกงของเตี๋ยมยี้ นาง
ตื่นตกใจตัวแข็งเพราะถึงแม้เตี่ยนางจะแก้ผ้าอาบน้ำให้นางตั้งแต่เล็กแต่นางอายุได้ห้าขวบก็ไม่เคยให้เตี่ยนาง ต้อง
มาอาบน้ำให้อีกเลย กับต้องมาโดนชายแปลกหน้าจับนางแก้ผ้าและที่สำคัญนางไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในด้วยจะดิ้นก็
เหมือนร่างกายมันแข็งขยับตัวไม่ได้ร้องก็กลัวและอายเตี่ยจึงกัดฟันหน้าแดงน้ำตาคลอ ปล่อยให้พ่อหมอที่เตี่ยเรียก
จัดการกางเกงอันเปียกไปด้วยเลือดสาวจนชุ่มออกไป ภาพที่เห็น ผิวขาวปานหยวกหน้าท้องแบนราบเรียบ เอวบาง
สะโพกที่ยังไม่โตเต็มที่ หน้าขาอันอวบอิ่มไร้รอยสิวฟ้า ระหว่างขาเผยให้เห็นดอกไม้ไร้แพรไหมโหนกนูนดั่งใคร
เอาเต่าไปแปะตรงนั้น กลีบไม่ช้ำเกสรไม่โผล่เรียบชิดสนิทแน่นรอบๆมีคราบเลือดพ่อหมอนำผ้าชุบน้ำร้อนบิด
หมาดๆแล้วเช็ดไปที่หน้าขารอบๆจับขาข้างหนึ่งยก โดยเช็ดรอบทั้งก้นและดอกไม้ เตี๋ยมยี้ได้แต่หันหน้ากัดฟัน
หน้าแดง พอหมอเช็ดบางที่ หนักมือไปหน่อย นางเผลอ สูดปาก ร้องอา เมื่อขาข้างหนึ่งทำความสะอาดเสร็จพ่อ
หมอก็ยกขาอีกข้างทำความสะอาดเหมือนข้างที่ผ่านมา อาจเพราะบิดน้ำไม่แห้งเช็ดไปเช็ดมาน้ำเยิ้มที่ดอกไม้แรก
แย้มของนางจนไหลซึมออกมา พ่อหมอจึงต้องบิดน้ำและเช็ดให้นางใหม่อีกครั้ง....................เมื่อทำความสะอาด
เสร็จ นำผ้าสะอาดอีกผืนมาบิดเป็นเกลียวให้นางคล่อมหนีบไว้พ่อหมอถามถึงกางเกงที่แห้งนางชี้ไปที่ตู้บ่อเมี้ยจึง
นำกางเกงมาใส่ให้นางพร้อมเอาก้อนหินคลุมด้วยผ้าหนาหลายชั้นวางไว้ที่ท้องของนางพร้อมพูดด้วยน้ำเสียง
อ่อนโยนว่า “สิ่งที่ท่านเกิดมันจะมาทุกเดือน เป็นสิ่งเตือนว่าท่านเป็นหญิง ท่านจงทำผ้าเป็นเกลียวค่อมไว้ซักสอง
ถึงสามวันน่าจะหายถ้าปวดท้องก็ให้หินเผาไฟประคบจะลดอาการปวดของท่านได้ แต่ถ้าวันใดท่านแต่งงานแล้ว
สิ่งนี้ไม่มาตามเดือนของท่านแสดงให้เห็นว่าท่านจะเป็นแม่คน ตอนนี้ท่านยังปวดหรือไม่” นางพยักหน้าแล้วก้ม
หน้าไม่มองใบหน้าแดงซ่าน จากนั้นพ่อหมอก็ออกจากห้องพบกับชายชราที่รอด้วยความกระวนกระวาย “เตี๋ยมยี้
เป็นไงบ้าง พ่อหมอ เป็นยังไง” “ท่านผู้เฒ่านางมีประจำเดือนเท่านั้น ร่างกายเปลี่ยนแปลงจากเด็กเป็นสาวควรลด
ของคาวกินผักผลไม้มากๆ ถ้าเดือนหน้านางเป็นอีก ท่านผู้เฒ่าไม่ต้องกังวลเพราะเป็นเรื่องปกติ เตี๋ยมยี้ของท่าน
สามารถรับมือได้แล้วเอาล่ะข้าพเจ้าจะเดินทางเสียที” “พ่อหมออย่าเพิ่งเลยตอนนี้ค่ำมือแล้วเดินทางไม่สะดวกอยู่
พักที่นี่แล้วค่อยเดิน อย่างน้อยให้ผู้เฒ่าอย่างเราได้ตอบแทนท่าน เอ่อ พ่อหมอเราไม่มีเงินน่ะ” “หึ หึ ข้าพเจ้าไม่ได้
หวังเงินทองอยู่แล้วเพียงมีที่อยู่ที่กินแบ่งปันช่วยเหลือข้าพเจ้าก็ไม่เสียทีที่เกิดมาแล้ว” “เอาละให้ผู้เฒ่าอย่างเราได้หาที่กินและหาที่พักให้ท่านเถอะ”แล้วชายชราก็พาพ่อหมอเข้าบ้านไป.................................
“มา มา มากินข้าวกันเอ่อ พ่อหมอไม่ถอดหมวกก่อนเรอะ” “ขออภัย” พ่อหมอถอดหมวกกุ๊ยเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ดั่งเทพบุตร “อือหล่อเหมือนเราผู้เฒ่าตอนหนุ่มๆ ฮะ ฮะ ฮะ เออพ่อหมอมีชื่ออะไร “ข้าผู้น้อยมีชื่อว่า บ่อเมี้ย”