จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 13 ค่ายแตก (เล่าเรื่องเสียว)
เสียงเผี่ยะ ผ่ะดังมาแต่ไกลจมูกก็ได้กลิ่นควัน นั้นคือสัญญาณอันตรายบ่อเมี้ยลุกขึ้นมาทันใดทำให้สองสาวที่นอนกอดบ่อเมี้ยตื่นขึ้นมาแม้จะงัวเงียอยู่ก็ตาม
“เจ้ม่วยรีบลุกเรื่องใหญ่แล้ว”น้ำเสียงจริงจังเร่งเร้าทำให้สองสาวตื่นตัวทันที
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไฟเจ้พวกมันใช้ไฟทำลายค่ายกลและจากที่ได้กลิ่นมันวางไว้รอบหุบเขารีบใส่เสื้อผ้าไปหาดอกท้อเร็ว”ไม่มีใครถามอีกทุกคนรู้หน้าที่ของตนบ่อเมี้ยรอให้สองสาวแต่งตัวเสร็จก็คว้ามือคนละข้างนำไปที่พักด้วยความเร็วสูงสุด ภาพที่เห็นดอกท้อและซากุระนอนเปลือยกายกันทั้งคู่อวดปทุมที่น่ารักดอกไม้ที่เป็นระเบียบแนบชิดกันเป็นภาพที่ยั่วตายั่วใจบ่อเมี้ยยิ่งนักแม้จะอยู่ในภาวะฉุกเฉินก็เหอะ
“เออ เจ้ม่วยรีบปลุกดอกท้อกับซากุระเถอะเดี๋ยวบ่อเมี้ยมา”โบตั๋นและเบญจมาศเข้าใจ
บ่อเมี้ยจึงใช้เวลานี้ใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดสำรวจความหนาแน่นของเปลวไฟ ช่องว่าง หนทางรอด แรงลม วัสดุในการจุดไฟ หลังจากสำรวจทุกอย่างแทบทำให้บ่อเมี้ยสิ้นหวังมีหนทางรอดจากเปลวไฟแต่ไม่รอดจากพวกมัน วัสดุจุดไฟพวกมันใช้น้ำมันราดรอบทั้งภูเขา ลมแรงแทบต้องแข่งกับเวลา พวกมันรู้มีคนบาดเจ็บพวกมันต้องการกำจัดเธอให้ได้ เพราะแทบไม่มีเวลาเดินทางเป็นกลุ่มที่ต้องคอยดูแลได้เลย แต่บ่อเมี้ยจะทิ้งได้เหรอ
บ่อเมี้ยรีบกลับไปไม่สนใจใครแต่งตัวเสร็จหรือเก็บสัมภาระเรียบร้อยหรือไม่รีบบอก
“เจ้ยี่ม่วยนำซากุระผูกหลังข้าพเจ้าเร็ว”
เบญจมาศสติดีที่สุดรู้ว่าความเป็นความตายอยู่ที่เวลารีบอุ้มซากุระที่บาดเจ็บมาผูกหลังมัดเอวซากุระหน้าแดงผ้าปิดหน้าหลุดหายไปไหนไม่รู้แขนกอดคอขาก็มัดกับช่วงขาของบ่อเมี้ย
“ทุกคนออกเดินทางรีบตามข้าพเจ้ามายี่ม่วยคอยดูแลซาม่วยเจ้ปิดท้าย”
ถ้าเป็นบ่อเมี้ยคนเดียวสามารถใช้วิชาตัวเบาที่ฝึกพิเศษมา สิบแปดปี วิ่งฝ่ากองไฟหนีไปได้แต่นี่มีมีคนที่เขาต้องห่วงใยมากกว่าหนึ่งชีวิต บ่อเมี้ยพาเดินขึ้นเขาด้วยก้าวเท้าที่มั่นคงสม่ำเสมอแต่ก็ไวจนสามสาวดอกไม้ใช้วิชาตัวเบาจึงตามทัน เบญจมาศสงสัยทำไมพาขึ้นเขาแต่รู้ว่าไม่มีเวลาไปกวนบ่อเมี้ย เพราะบ่อเมี้ยสำรวจมาก่อนนางถ้าเป็นนางจะลงเขาที่เปลวไฟอ่อนแล้วฝ่าออกไปน่าจะง่ายกว่า แต่นางเชื่อมั่นในการตัดสินใจ เพราะนางเคยฝากชีวิตในมือหมอที่รักนี้เต็มหัวใจ และนางมั่นใจนางดูไม่ผิด บ่อเมี้ยนำทางอย่างคนเคยมา ใช่บ่อเมี้ยเคยมาด้วยวิชาตัวเบาขั้นสูงสุดโดยวิ่งผ่านรอบหุบเขาหาทำเลที่ปลอดภัยที่สุดแม้จะชั่วคราวก็ตาม
“เจ้ถึงแล้วเข้าไปในถ้ำนี้ก่อนเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง”
ทุกคนที่มาถึงถ้ำทำหน้ามึนงง เบญมาศจะมาแก้มัดบ่อเมี้ยรีบปฎิเสธบอกมีเวลาพักครู่เดียวให้ซากุระอดทนหน่อย ซากุระได้แต่พยักหน้าเบาๆด้วยใบหน้าแดงฉาน จะไม่ให้อายได้ไงบ่อเมี้ยเห็นหมดทุกสัดส่วนและตอนนี้หน้าอกนางยังแนบเนื้อกับหลังของบ่อเมี้ยอีก ยิ่งดอกท้อจอมเจ้าเล่ห์มายิ้มใกล้พูดเป็นนัย ๆ ว่าต้องเป็นเมียอีกคนของบ่อเมี้ยยิ่งทำให้ซากุระอายหนักเข้าไปอีกและผู้ที่รู้เบื้องลึกทั้งหมดก็ดอกท้อนั่นเอง
“เจ้ยี่ม่วยซาม่วย แม่นางซากุระ โปรดฟังให้ดีพวกมันสร้างตาข่ายฟ้าดินครอบคลุมทั้งหุบเขาเป้าหมายต้องการสังหารแม่นางให้ได้ พวกมันจุดไฟด้วยน้ำมันเผาทั้งหุบเขา ย้ำทั้งหุบเขา มีหนทางรอดจากไฟแต่ไม่รอดจากมันรวมทั้งกระแสลมพัดเป็นใจให้กับมันข้าพเจ้าวางค่ายกลแต่ไม่คิดมันจะโหดเหี้ยมอำมหิตยอมกำจัดแม้ลูกน้องที่ติดค่ายกลอยู่ ตอนนี้มีวิธีเดียวในจุดตายมีจุดเป็นคือในถ้ำนี้หวังว่าจะมีทางน้ำภูเขาให้เราได้อาศัยเอาตัวรอดไปเราบอกทุกท่านว่า หวังว่า เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าไม่มั่นใจถึงแปดส่วนแต่ดูจากพื้นดินชุ่มชื่นต้นไม้งอกงดงามน่าจะหวังว่า ได้ แต่ก่อนเดินทางให้ตกลงกันก่อนไม่ว่าใครรอดได้ให้เดินทางไปที่เขาเหลียงซานไม่ต้องรอแถวนี้อย่างน้อยยังมีผู้อาวุโสหลายท่านสามารถคลี่คลายปมปริศนาต่าง ๆ และอาจได้รับความช่วยเหลือก็ได้ เอาละก่อนที่เราจะดำเนินการต่อ แม่นางโปรดบอกแม่นางเป็นใคร พวกเราจะได้ไม่ตายอย่างโง่งม”
ถ้ายังอยู่หลังบ่อเมี้ยนางจะอายหน้าแดงไม่กล้าพูดแน่เบญจมาศถือวิสาสะแกะเชือกให้นางและประคองนางให้นั่งลง บ่อเมี้ยก็พยักหน้าอย่างเข้าใจและพอมีเวลา
“ข้าพเจ้าชื่อ ซากุระ เป็นธิดาของฟูซะซึ่งเป็นเจ้าสำนักนินจาฟูซะ กิจการก็รับจ้างขนส่ง รายงานข่าวหาข่าว ยาม ทหารรับจ้าง รับประกันสินค้า ฝากสินค้าแต่ไม่รับฆ่า พ่อของข้าพเจ้าถูกจียะเป็นรองเจ้าสำนักวางยาพิษเพื่อยึดอำนาจเป็นเจ้าสำนักเพื่อธุรกิจ ขายฝิ่น รับจ้างฆ่า บ่อนการพนัน ข้าพเจ้าหนีออกมาพร้อมเพื่อนร่วมตายเพื่อขอความช่วยเหลือสุดท้ายก็เหลืออย่างที่เห็นนี่แหละ”นางเล่ารวดเดียวแต่ก็ยังไม่มองหน้าบ่อเมี้ย เพียงแต่ชำเลืองมองอยากขลาดกลัวเท่านั้น บ่อเมี้ยนึกว่านางกลัวตนเนื่องจากตนหน้าค่อนข้างสีแดงดูหน้ากลัวจึงยิ้ม(โอขงจื้อ จวงจื้อ ซาจื้อ โปรดเมตตาด้วยผ้าคลุมหน้าไปไหนนะ)ซากุระได้แต่มองตกตะลึงหน้ากับไปแดงกล่ำรีบก้มหน้าดอกท้อคอยสังเกตอาการอยู่แล้วหัวเราะคิก คิก ขึ้นมาเบญจมาศและโบตั๋นรู้ล่วงหน้าต้องเพิ่มสมาชิกใหม่จึงถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆมีคนเดียวที่ทำหน้าเหรอหราเกิดอะไรขึ้นก็พระเอกของเรานั้นเอง(เรื่องนี้ละโง่นัก)
เสียงเผี่ยะผะดังใกล้เข้ามากลิ่นควันไฟลอยตามลมบ่อเมี้ยจึงว่าไม่มีเวลาเบญจมาศจึงผูกซากุระกับบ่อเมี้ยแล้วเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าอกของบ่อเมี้ยว่าให้ทำตัวดีดีนะพร้อมสายตาของแม่เสือร้ายบ่อเมี้ยได้แต่กลืนน้ำลาย คราวนี้เจ้โบตั๋นนำ ตามด้วยดอกท้อ และเบญจมาศ ปิดท้ายด้วยบ่อเมี้ยที่อุ้มซากุระเดินทางเข้าถ้ำที่ไม่รู้อนาคต.......................................