[เล่าเรื่องเสียว]

เรื่องเสียว ฝันเป็นจริง

     หากจะว่า ผมไม่เคยคิดกับพี่สาวแสนสวยของผมเองก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่ใครจะรู้ว่า เรื่องที่ผมแต่งจากการจินตนาการโดยมีพี่สาวน่ารักของผมเป็นนางเอกของเรื่อง ซึ่งพระเอกของเรื่องก็ต้องเป็นผมแน่นอน จะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ แม้มันจะไม่ตรงตามเรื่องที่ผมแต่งขึ้น แต่มันก็ทำให้ผมได้พี่สาวแสนน่ารักของผมเป็นเมียได้โดยที่พี่สาวผมเองก็ไม่ได้ร้องหรือขัดขืนอะไรมากนัก หรือจะว่าเป็นการขัดขืนพอเป็นพิธีก็ว่าได้ เพราะตอนที่ผมได้พี่สาวที่สุดแสนน่ารักเป็นเมียนั้น จะว่าเป็นการสมยอมก็ว่าได้ เพราะพี่สาวผมมาหาผมเองถึงที่ห้องนอนผม โดยเรื่องของผมกับพี่สาวของผมเริ่มจาก ตอนประมาณต้นปี 48 ตอนนั้นผมโป้งเพิ่ง 15 เอง ส่วนพี่ก้อย พี่สาวผมก็ย่าง 17 ตอนนั้นผมชอบเข้าเว็บเพื่ออ่านเรื่องอย่างว่าจากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องระหว่างพี่กับน้อง และยิ่งชอบก็เรื่องพี่สาวกับน้องชายนั่นเอง เพราะผมเองก็มีพี่สาว ซี่งก็คือพี่ก้อย แต่จะว่าไป แม้ว่าผมจะชอบ แต่ผมเองก็ไม่กล้าคิดที่จะทำอะไรกับพี่ก้อยจริง ๆ หรอกครับ จึงได้แต่อาศัยการจินตนาการ และพออ่านเรื่องต่าง ๆ มาพอสมควร ก็เริ่มเห็นว่าเรื่องมันซ้ำกันไปซ้ำกันมา จึงคิดที่จะเริ่มเขียนขึ้นเอง จากการจินตนาการ โดยมีพี่ก้อยเป็นนางเอกของเรื่อง แรก ๆ ก็อาศัยพล็อตเรื่องของเรื่องที่อ่านบ้าง แต่สักพักก็เริ่มแต่งเอง จากจินตนาการและจะให้มันดูสมจริง ก็ต้องอาศัยการสังเกตุ แอบดู จดจำทั้งพฤติกรรม และตำหนิต่าง ๆ ตามตัวพี่ก้อย โดยเฉพาะบริเวณที่ซ่อนเร้น ซึ่งวิธีของผมก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ก็คือการแอบมองตอนระหว่างอาบน้ำบ้าง แอบถ่ายคลิปไว้บ้าง แล้วก็เอามาจินตนาการจนแต่งได้เองประมาณสองสามเรื่องได้ แล้ววันที่เกิดเรื่องก็มาถึง ปกติเครื่องคอมที่ผมใช้ ก็จะอยู่ในห้องผม นาน ๆ พี่ก้อยถึงจะมาขอใช้สักที ซึ่งผมก็ต้องระวังละครับ วิธีของผมก็คือ ผมจะตั้ง ยูสเซอร์ให้พี่ก้อยได้ใช้ โดยมีสิทธิ์ธรรมดา ส่วนผมก็ต้องสิทธิ์แอดมินเครืองละครับ แล้ววันหนึ่งเครื่องของผมเกิดมีปัญหาขึ้นมา ทำให้ผมต้องตัดสินใจลงโปรแกรมใหม่ทั้งหมด ดีที่ว่าข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องผมแยกไว้ที่ฮาร์ดดิสก์อีกก้อนหนึ่ง จึงไม่มีปัญหาเรื่องข้อมูลหาย แต่ผมก็ลืมไปว่าถ้ามีใครเข้าเครื่องด้วยสิทธิ์แอดมิน มันก็ต้องเห็นข้อมูลทั้งหมด และวันหนึ่ง พี่ก้อยก็มาขอยืมใช้ ตอนนั้นผมเองยังไม่มีเวลาที่จะจัดการเรื่องยูสเซอร์คนใช้เครื่อง จึงตั้งเป็นแบบเข้าอัตโนมัติด้วยสิทธิ์แอดมินไว้ โดยไม่ทันได้คิด และแล้วความลับที่เป็นจินตนาการของผมก็ถูกเปิดเผย เพียงเพราะตอนนั้นด้วยความห่วงเรื่องที่แต่งไว้ จึงเปิดเช็คดู แล้วมันก็มีประวัติการเปิดค้างอยู่ แล้วบังเอิญพี่ก้อยของผมก็มาใช้โปรแกรมนั้นพอดี พี่ก้อยจึงลองเปิดดู เพราะผมดันตั้งชื่อไว้แปลก ๆ ที่ผมเข้าใจเอง ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่ก้อยจะรู้สึกอย่างไร และผมเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าพี่ก้อยรู้ความลับเรื่องนี้แล้ว จนกระทั่งวันหนึ่ง วันนั้นผมจำได้แม่น เพราะเป็นช่วงปฏิวัติ คมช พอดี พ่อแม่ผมซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงพอสมควร ก็ถูกเรียกเข้ารายงานตัวโดยตอนนั้นทั้งพ่อแม่ผมต้องค้างที่กรมเกือบสองอาทิตย์เพื่อให้ข้อมูลและคอยตอบคำถามเรื่องต่าง ๆ มันจึงเป็นวันที่แสนสุขของผม
วันนั้นเป็นวันเสาร์ที่ 23 กันยา 49 (ผมจำได้แม่นยำ) วันนั้นผมกับพี่ก้อย ไม่ได้ไปเรียน แต่ก็ยังไม่กล้าออกไปไหนเท่าไร เพราะพ่อแม่ผมสั่งไว้ ก่อนหน้านั้นผมเองก็รู้สึกว่าพี่ก้อยแปลก ๆ ไป ไม่ค่อยเข้ามาเล่นหรือพูดคุยกับผมเท่าไร ดูเกร็ง ๆ และมองผมแปลก ๆ แต่ผมเองก็ไม่กล้าถามอะไรมากนัก แล้วผมก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เย็นวันนั้นหลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็เข้าห้องนอนเพื่อเปิดเว็บเพื่อหาเรื่องอย่างว่าอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวในการแต่งเรื่องของผม อยู่ ๆ พี่ก้อยก็มาเคาะห้องผม "โป้ง ๆ ทำอะไรอยู่นะ พี่เข้าไปได้ไหม" ตอนนั้นผมต้องรีบปิดเว็บทั้งหมด ก่อนที่จะทำเป็นเปิดเกมส์ที่อยู่ในเครื่องขึ้นมา แล้วจึงลุกไปเปิดประตูให้พี่ก้อยเข้ามา "ทำอะไรอยู่นะ" พี่ก้อยถามหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องผม "เล่นเกมส์นะ แจ้พี่อะไรหรือ จะใช้คอมหรือ เอาสิ" ตอนนั้นผมคิดว่าพี่ก้อยจะใช้คอม จึงคิดที่จะให้พี่ก้อยใช้ก่อน แต่พี่ก้อยก็บอกกับผมว่า "เปล่าหรอก อยากคุยอะไรด้วยหน่อย" แล้วผมกับพี่ก้อยก็นั่งลง โดยผมนั่งที่เก้าอี้ ส่วนพี่ก้อยนั้นนั่งที่ขอบเตียงผม "เป็นอย่างไรบ้างเรานะ" พี่ก้อยเริ่มคำถามก่อน ผมได้ยินก็ทำหน้างง พี่ก้อยจึงถามต่อว่า "มีแฟนหรือยังนะเรา" ผมจึงตอบไปว่า "ยัง" แล้วพี่ก้อยก็ถามต่อว่า "อะไรกัน โตป่านนี้ยังไม่มีแฟนอีกหรือ เกย์หรือเปล่านะเรา" ผมได้ยินก็คิดอยากจะตอบเหมือนกันว่า เกย์ไม่เกย์ไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าพี่ก้อยไม่ใช่พี่สาวผมเอง ผมจีบพี่ก้อยไปนานแล้ว และคงเพราะพี่ก้อยนี่เอง ที่ทำให้ผมไม่ได้มองสาวอื่นเลย เพราะผมมักจะเอามาเปรียบกับพี่ก้อยของผมเสมอ ก่อนจะตอบพี่ก้อยกลับไปหลังจากนิ่งไปสักพักว่า "แจ้อยากได้น้องสะใภ้หรือน้องเขยละ" พี่ก้อยได้ยินก็หัวเราะก่อนที่จะพูดออกมาว่า "บ้า ไปถามป๊า ม้าสิ" แล้วผมกับพี่ก้อยก็หัวเราะกัน แต่แล้วพี่ก้อยก็ทำผมอึ้งไปเลย เพราะตอนนั้นพี่ก้อยเดินมาที่เครื่องคอม ก่อนที่จะถามผมว่า "แล้วคิดว่าแจ้เป็นอย่างไรบ้างละ" พี่ก้อยพูดแล้วหันมามองหน้าผม ก่อนที่จะเข้านั่งที่เก้าอี้หน้าคอม หลังจากที่ผมลุกไปแล้ว "ก็ ก็ ไม่ได้คิดอย่างงัยนี่ แจ้ก็ดูดี เพื่อน ๆ ก็บอกว่าแจ้น่ารัก สวย อยากจีบแจ้ทั้งนั้นนิ" ก่อนที่ผมจะย้อนถามกลับไปว่า "แล้วแจ้ละ ทำไมไม่มีแฟน คงไม่ได้หาพี่สะใภ้ให้โป้งนะ" ก่อนที่ผมจะทำเป็นหัวเราะ แต่แล้วผมก็ต้องสะดุด เพราะคำถามพี่ก้อยที่ว่า "โป้งไม่เคยคิดกับแจ้อย่างนั้นจริง ๆ หรือ" พี่ก้อยถามก่อนที่จะนิ่งรอคำตอบ สักพักพี่ก้อยก็ถามต่อว่า "แล้วทำไมโป้งถึงได้รู้เรื่องแจ้ดี ไม่ว่าแจ้จะมีอะไรตรงไหน ชอบใส่สีอะไร ยี่ห้ออะไร แล้วยังรู้อีกว่าไซร์อะไรอีก" มันทำให้ผมถึงกับอึ้งและหน้าเริ่มถอดสี เพราะกลัวและไม่รู้ว่าพี่ก้อยจะว่าอะไรผมบ้าง ก่อนที่พี่ก้อยจะหันไปเปิดเรื่องทีผมแต่งขึ้นมาเรื่องหนึ่ง  เรื่องนั้นมันบรรยายสรรพคุณ สัดส่วนต่าง ๆ ของพี่ก้อยได้ค่อนข้างละเอืยด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยี่ห้อชั้นใน ไซร์ คัพ รวมถึงการประมาณการว่าสัดส่วนพี่ก้อยเป็นเท่าไร ซึ่งผมก็อาศัยประมาณจากชั้นในที่ใส่นั่นแหละ แต่มันช่างบังเอิญที่ผมมารู้ที่หลังว่า มันตรงพอดีบวกลบไม่เกินครึ่งเซ็นต์ แถมยังเป็นเรื่องที่จินตนาการว่าผมได้ทำอะไรกับพี่ก้อยบ้าง โดยบรรยายถึงการเปิดซิงพี่ก้อย ในคืนวันนั้นพี่ก้อยเพิ่งไปเที่ยวผับกับเพื่อนกับมา และก็เมามาด้วย มันตรงพอดี เพราะผมเอาเหตุการณ์จริงของพี่ก้อยมาบวกกับจินตนาการของผม เพื่อให้ผมรู้สึกว่ามันใกล้ความจริงที่สุด แต่ที่ไม่จริง ก็คือเรื่องผมเปิดซิงพี่ก้อย แต่ในเรื่องนอกจากบรรยายสัดส่วนพี่ก้อยแล้ว ยังมีการบรรยายถึงตำหนิต่าง ๆ บนตัวพี่ก้อย ไม่ว่าจะเป็นที่เหนือราวหน้าอก ขนที่ปกคลุมอยู่ที่เนินหว่างหีที่ออกบาง ๆ รวมถึงที่สำคัญที่สุดก็คือ รอยปานดำจาง ๆ ที่ต้นขาใกล้ขาหนีบพี่ก้อย ซึ่งตำหนิทั้งหมดก็มาจากการแอบดูของผมตอนพี่ก้อยอาบน้ำนั่นเอง แต่วันนั้นพี่ก้อยก็เรียกได้ว่าเมามากเหมือนกัน เรียกได้ว่าถ้าผมทำอะไรไปจริง ๆ พี่ก้อยก็คงไม่รู้ตัวหรอก จึงทำให้พี่ก้อยไม่แน่ใจ แล้วพี่ก้อยก็มาหยุดที่ช่วงสำคัญของเรื่อง  ก่อนที่จะหันมาถามผมซึ่งตอนนั้นกำลังหน้าซีดว่า "ทำแจ้อย่างนี้จริง ๆ หรือเปล่า" มันทำให้ผมพูดไม่ออกเลย ได้แต่ก้มหน้า และพยายามหลบสายตาพี่ก้อย แล้วพี่ก้อยก็เดินออกจากห้องผมไปโดยไม่รอคำตอบผมหรือพูดอะไรเลย มันทำให้ผมถึงกับซึมไปเลย เพราะความกลัว ได้แต่นั่งเซ็งและกลัวอยู่ที่ปลายเตียง โดยไม่กล้าออกจากห้อง จนกระทั่งผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ อยู่ ๆ ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา พี่ก้อยเดินเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้พี่ก้อยมาในชุดนอนคลุมทั้งตัวสีครีมอ่อน ก่อนที่จะพูดกับผมว่า "ไปอาบน้ำได้แล้ว ดึกแล้ว" ก่อนที่จะเดินมาดันตัวผมให้ไปอาบน้ำ ตอนนั้นผมคิดแต่ว่าอยากหนีหน้าพี่ก้อยไปไกล ๆ จึงรีบลุกหยิบเสื้อผ้าแล้วลงไปอาบน้ำ โดยครั้งนั้นผมอาบน้ำเรียกได้ว่านานที่สุดในชีวิตผมก็ว่าได้ เพราะปกติผมอาบน้ำไม่เกินสิบห้านาที แต่ครั้งนั้นผมอยู่ในห้องน้ำชั่วโมงกว่า ๆ พอคิดว่านานแล้ว และพี่ก้อยก็คงไม่อยูที่ห้องผมแล้ว จึงออกจากห้องน้ำก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้อง พอเปิดประตูเท่านั้นหัวใจผมแทบวาย พี่ก้อยยังคงนั่งอยู่ที่หน้าคอม แล้วพี่ก้อยก็หันหน้ามามองผม ก่อนที่จะพูดว่า "แป๊บหนึ่งนะ" สิ่งที่พี่ก้อยดูอยู่ก็คือเรื่องที่ผมแต่งเกี่ยวกับผมและพี่ก้อยนั่นเอง ระหว่างนั้นผมก็นั่งรอที่ขอบเตียง สักพักพี่ก้อยก็หันมาถามผมว่า "ใช้อีกหรือเปล่า ถ้าไม่ใช้จะได้ปิดให้" ผมจึงตอบแบบสั่น ๆ ว่า "ไม่แล้วแจ้" พี่ก้อยจึงปิดเครื่องก่อนที่จะลุกแล้วเดินมาหาผมแล้วนั่งลงข้าง ๆ ผมก่อนจะพูดว่า "แจ้ขอนะ อย่าทำอย่างนี้กับใครอีก รู้มั้ยมันไม่ดี ถ้าอยากทำอะไรอย่างนี้ บอกแจ้ ถ้าแจ้ช่วยได้แจ้จะช่วย" ก่อนที่จะหยุดไปสักพัก แล้วพี่ก้อยก็พูดต่อว่า "ถ้าอยากทำกับแจ้ แจ้คงให้ได้แค่กอดจูบเท่านั้น คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกนะ และก็ห้ามเอาไปพูดกับคนอื่นด้วย" แล้วพี่ก้อยก็มองหน้าผมก่อนที่จะทำท่าลุกจะเดินออกจากห้องไป แล้วพี่ก้อยก็หันมามองผมอีกครั้งเอามือวางผมหัวผมแล้วพูดว่า "อยากเครียดนะ แจ้ไม่ฟ้องป๊า ม้าหรอก" แล้วพี่ก้อยก็ยิ้มให้ผม ก่อนจะหันหลังกลับไป แล้วอยู่ ๆ มือผมก็ยื่นไปฉุดมือพี่ก้อยไว้ พี่ก้อยจึงหันมามองแล้วยิ้ม ตอนนั้นพี่ก้อยยืนอยู่ ผมจึงยืนขึ้นก่อนที่จะพูดกับพี่ก้อยแบบกลัว ๆ กล้า ๆ ว่า "แจ้ ถ้าโป้งขอจูบได้หรือเปล่าละ" พี่ก้อยนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะพูดกลับมาว่า "ได้ แต่ต้องสัญญานะ ไม่เกินเลยกว่านี้นะ" แล้วพี่ก้อยก็หยุด ก่อนที่ผมจะยื่นหน้าไปจูบปากพี่ก้อย มันเป็นการจูบครั้งแรกของผม มันทำให้ใจผมเต้นดังมาก มือไม้เย็นไปหมด ผมจูบปากพี่ก้อยของผมนานเท่าไรไม่รู้ มารู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่พี่ก้อยผลักหน้าผมออกแล้วถามว่า "พอหรือยัง" ผมไม่ตอบแต่กลับประกบปากอีกครั้ง คราวนี้ผมกดตัวพี่ก้อยให้นั่งลงที่ขอบเตียง ก่อนที่จะเริ่มกอดตัวพี่ก้อยไว้ สักพักผมก็พยายามที่จะเอนตัวพี่ก้อยให้นอนลงบนเตียง แต่พี่ก้อยก็พยายามฝืนแล้วก็ผลักหน้าผมออกแล้วพูดอีกว่า "สัญญานะ ว่าจะไม่เกินเลยถึงขนาดนั้น" พี่ก้อยพูดเสร็จก็โดนผมประกบปากอีกครั้ง ก่อนที่จะโดนผมเอนให้นอนลงบนเตียง พอพี่ก้อยนอนลง ผมก็เริ่มซุกปากและจมูกไปตามแก้ม ใบหู ซอกคอพี่ก้อย ก่อนที่มือจะเริ่มอยู่ไม่สุขด้วยการเริ่มลูบไปตามแขน ข้างลำตัว เอว สะโพก ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะวนเวียนอยู่แถวเรียวขาพี่ก้อย ส่วนอีกมือก็วนเวียนอยู่ที่ข้างรักแร้ ขึ้นมาทางหน้าอก ระหว่างนั้นพี่ก้อยไม่ได้ร้องห้ามหรือพูดอะไร ได้แต่ปล่อยให้ผมซุกไซร์หน้าไปตามใบหน้ารวมถึงบริเวณต้นคอและเหนือเนินอก ก่อนที่จะถูกมือผมลูปไปที่เนินอกเบา ๆ พี่ก้อยถึงได้ร้องทักว่า "โป้ง ไม่เอาเถอะ พอแล้วนะ" แต่ผมก็ไม่ยอมหยุด แต่กลับไปประกบปากพี่ก้อยอีกครั้ง คราวนี้มือผมเริ่มรุกไปตามหน้าอกหนักขึ้น เริ่มลูบคลำสลับไปมา ก่อนที่จะบีบเบา ๆ บ้าง ตอนนั้นผมรู้สึกว่าหัวนมพี่ก้อยเริ่มเปลี่ยนไป มันเหมือนจะแข็งและชูขึ้น แม้จะยังอยู่ในยกทรงก็ตาม ขณะที่มือที่อยู่ที่เรียวขาก็เริ่มร่นชายชุดนอนให้ขึ้นมากองเหนือต้นขา ก่อนที่มือจะเริ่มล้วงเข้าไปลูบที่ต้นขาภายในเสื้อ โดยที่มือพี่ก้อยคอยรั้งไว้ "โป้ง พอเถอะ เดี๋ยวมันเกินเลยกว่านี้ มันไม่ดีนะ" แต่ผมก็ยังคงไม่ยอมหยุด พอพี่ก้อยพูดจบปากผมก็ประกบปากพี่ก้อยทันที ส่วนมือก็เริ่มรุกหนักทั้งสองข้าง โดยมือที่อยู่ที่หน้าอกก็เริ่มบีบคลึงมากขึ้น ส่วนมือที่ต้นขาก็เริ่มลูบวนแถว ๆ เนินหีพี่ก้อย ค่อย ๆ ลูบขึ้นลง โดยเน้นบริเวณเนินร่องหีพี่ก้อย ตอนนั้นพี่ก้อยยังคงหนีบขาไว้แน่น แล้วผมก็หยุดบีบคลึงที่หน้าอก และถอนปากที่ประกบไว้ แล้วถามพี่ก้อยว่า "แจ้ ถอดนะ" ไม่ทันได้รอคำตอบอะไรจากพี่ก้อย ปากผมก็กดประกบปากพี่ก้อยอีกครั้ง ส่วนมือก็ล้วงเข้าไปในชุดนอน ดันจนมันขึ้นไปกองอยู่ที่เหนือเนินอก ก่อนที่มือจะล้วงเข้าไปในยกทรงข้างหนึ่งของพี่ก้อย "อย่า โป้งพอเถอะ" พี่ก้อยห้ามออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ประกบปากอีกแล้ว เพราะปากผมมันมาหยุดอยู่ที่เนินอกพี่ก้อย ก่อนที่จะมันหันไปทำหน้าที่ดูดเม้มยอดอกพี่ก้อยข้างที่โดนผมดันจนยกทรงหลุดพ้นหน้าอกขึ้นไปกองอยู่เหนือเนินอก พี่ก้อยยังคงร้องห้าม "อย่าโป้ง หยุดเถอะ พอแล้ว" ยังไม่ทันที่พี่ก้อยจะร้องห้ามอะไรอีก มืออีกข้างของผมก็เกี่ยวผ่านขอบขากางเกงใน เข้าไปสัมผัสกับร่องเนินหีพี่ก้อย ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าเริ่มแฉะแล้ว พี่ก้อยพยายามดึงรั้งมือผมไว้ แต่มันก็ไม่อยู่ แล้วพี่ก้อยก็ต้องหยุดเพราะนิ้วชี้ผมมันกรีดไปตามแนวร่องหี มันทำให้ขาพี่ก้อยถึงกับเขยิบอ้าออกแม้จะนิดหน่อย แต่มันก็ทำให้นิ้วผมสามารถแหย่เข้าไปในร่องได้ พี่ก้อยถึงกับสะดุ้ง ก่อนที่จะร้องออกมาว่า "โอ๊ย เจ็บ" แทนที่ผมจะหยุด ผมกลับแหย่นิ้วเข้าไปอีก คราวนี้มันหลุดเข้าไปได้ข้อกว่า ๆ พี่ก้อยถึงกับขนลุกไปทั้งตัว ก่อนที่ขาจะเริ่มแยกออก แต่ก็มีเสียงร้องออกมาอีกว่า "โอ๊ย พอเถอะ หยุดก่อนนะ" มันเหมือนคำยุมากกว่า เพราะแทนที่ผมจะหยุดตามที่พี่ก้อยร้องขอ แต่ผมกลับแยงนิ้วเข้าไปในร่องอีกครั้ง คราวนี้พี่ก้อยถึงกับปล่อยให้ผมอ้าขาได้ตามใจชอบผม ส่วนยกทรงก็หลุดขึ้นไปกองเหนือราวนมทั้งสองข้าง ปล่อยให้ปากผมดูดเม้มสลับไปมา ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ร่องหีพี่ก้อยแฉะเต็มไปด้วยน้ำเสียวของร่องหีพี่ก้อย ส่วนพี่ก้อยได้แต่เกาะและบีบต้นแขนผมเบา ๆ ขณะที่นิ้วผมเริ่มเขี่ยไปมาตามร่องหี "โอ๊ย ซีดสส์" เสียงพี่ก้อยเริ่มร้องครางออกมาเบา ๆ สลับกับเสียงร้องขอว่า "พอแล้วนะ อย่าทำเกินกว่านี้นะ" พอผมรู้ว่าพี่ก้อยเริ่มไม่ขัดขืน ผมก็เริ่มขยับหน้ามาทีเนินหีพี่ก้อยทันที พี่ก้อยรู้ตัวก็รีบกันหน้าผมไว้ก่อนที่จะพูดว่า "อย่าโป้ง ไม่เอา อย่า อุ๊ยย์ ซีดสสส์" เสียงพี่ก้อยร้องออกมาหลังจากที่ลิ้นผมลากผ่านร่องหีทางด้านข้างขาที่ผมแหวกไว้ ระหว่างที่ผมเลียลิ้นไปมาตามร่องหีพี่ก้อยนั้น มือทั้งสองข้างผมก็ทำหน้าที่ในการรูดเอากางเกงในตัวจิ๋วของพี่ก้อยให้หลุดไปคาที่หัวเข่า ก่อนที่จะหลุดไปพ้นจากขา หลังจากพี่หมดสิ่งกีดขวาง ขาพี่ก้อยก็ถูกผมอ้าออก ทำให้หน้าผมเข้าไปซุกที่เนินหีได้เต็มที่ "อุ๊ยย ซีดดดส์" เสียงพี่ก้อยร้องครางตลอดเวลาที่ลิ้นผมลากผ่านไปมาตามร่องหี ตอนนั้นเหมือนกับว่าพี่ก้อยเริ่มหมดแรงทั้งการขัดขืน หรือแม้แต่แรงบีบหัวไหล่และต้นแขนผม ได้แต่ร้องและปล่อยให้ผมลากลิ้นขึ้นลงที่ร่องหี ผมจึงถือโอกาสในการจัดการกับกางเกงผม ทำให้ท่อนควยผมที่ไม่ได้ใหญ่เท่าไรนัก แต่มันแข็งจนผมเองก็ไม่รู้ว่าจะฝืนอย่างไรอีกแล้วได้ออกมาเป็นอิสระ ตอนนั้นพี่ก้อยยังคงไม่รู้ได้แต่นอนหลับตาและเอาแต่ร้องครางเบา ๆ สลับกับการบีบที่ไหล่และการกดหัวผมไปที่เนินหี พอกางเกงผมหลุดไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็เงยหน้ามองพี่ก้อยก่อนที่จะจูบเบา ๆ ที่เนินหี แล้วจึงค่อย ๆ เลื่อนหน้าสูงขึ้น พร้อมกับการขึ้นคล่อมทับต้นขาพี่ก้อยไว้ หน้าผมค่อย ๆ เลื่อนสูงขึ้นช้า ๆ ผ่านหน้าท้อง ก่อนที่จะขึ้นไปที่เนินหน้าอก โดยไม่ลืมที่จะแวะทักทายด้วยปากสลับไปมาทั้งสองข้างจนพี่ก้อยเองต้องร้องออกมาว่า "โป้ง พอแล้วเถอะ เสียว ไม่ไหวแล้ว" มันเหมือนเป็นเสียงสวรรค์ที่กระตุ้นให้ผมทำในสิ่งที่ผมเคยจินตนาการไว้ จึงได้เลื่อนหน้าสูงขึ้น ซุกไปตามซอกคอ ใบหู แก้ม แล้วหยุดลงที่ริมฝีปากพี่ก้อยอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนหน้า เพราะเนินหีพี่ก้อยนั้น ถูกมือผมแหวกร่องหีให้อ้าออก รอรับการสัมผัสจากท่อนควยอันแข็งของผม "อุ๊ย ซีดดส์" เสียงพี่ก้อยสะดุ้งอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ทันรู้ตัว แต่แล้วพี่ก้อยก็เริ่มรู้ตัว จึงร้องออกมาว่า "อย่า โป้ง ไม่เอานะ โอ๊ยยย" เสียงพี่ก้อยร้องห้าม แต่มันก็ไม่ทันแล้ว เพราะผมเองก็กลัวพี่ก้อยจะรู้และห้ามเสียก่อน จึงรีบจ่อท่อนควยแล้วออกแรงกดเบา ๆ ทันที ส่วนหัวของท่อนควยผมมันเข้าไปในร่องหีพี่ก้อยที่ผมเตรียมทางไว้ก่อนหน้านี้แล้วทันที "โอ๊ย เจ็บ โป้ง ไม่เอานะ ไม่ โอ๊ยย" เสียงพี่ก้อยยังคงร้องห้ามและพยายามจะดิ้น แต่มันก็หยุดผมและท่อนควยผมไม่อยู่ ยิ่งพี่ก้อยร้องห้าม ท่อนควยผมก็ถูกกดเข้าไปแม้ว่ามันจะยากและฟิตขนาดใหน แต่มันก็ยังคงถูกกดเข้าไป พอพี่ก้อยร้องที ปากผมก็จะประกบปากพี่ก้อยที ส่วนท่อนควยก็ถูกกดเข้าไปที แม้ว่าวเข้าไปได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ตาม แต่แล้วผมก็รู้ว่าท่อนควยผมได้มุดเข้าร่องหีพี่ก้อยได้เกือบครึ่งแล้ว จึงหยุดคาไว้ ก่อนที่จะคลายปากที่ประกบ แล้วพูดกับพี่ก้อยว่า "แจ้ เป็นเมียโป้งนะ" แล้วผมก็รีบประกบปากพี่ก้อยอีกครั้ง แต่ยังคงหยุดท่อนควยไว้ ส่วนพี่ก้อย ตอนนั้นก็ได้แต่ร้องไห้ มันทำให้ผมรู้สึกผิดอย่างไรไม่รู้ จึงเลิกประกบปาก มองหน้าพี่ก้อยอีกครั้งแล้วถามว่า "แจ้ โป้งขอโทษนะ ทนเจ็บแป๊บเดียวนะ" แล้วผมก็กางขาพี่ก้อยออกจนกว้าง ก่อนที่จะกลั้นใจออกแรงกดท่อนควยอีกครั้ง คราวนี้พี่ก้อยกับผมถึงกับร้องออกมาอย่างดัง "โอ๊ย" ทั้งผมและพี่ก้อยแข่งกันร้องออกมา โดยเฉพาะพี่ก้อยร้องดังกว่าผมมาก และน้ำตาก็ไหลออกมาจนเต็มไปทั้งหน้า ผลของการออกแรงกดในครั้งนี้มันทำให้ท่อนควยผมมุดเข้าร่องหีพี่ก้อยได้หมด และไม่รู้เพราะความเจ็บหรือเพราะอะไร อยู่ ๆ พี่ก้อยก็เกิดอาการเกร็ง กอดผมจนแน่น ส่วนปากก็ดึงหน้าผมไปประกบไว้ จนผมเองก็แทบหายใจไม่ออก ตอนนั้นท่อนควยผมยังคาอยู่ในร่องหีพี่ก้อย รู้สึกว่ามันเหมือนมีอะไรขยับกระตุก ๆ แต่ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอพี่ก้อยเริ่มคลายจูบและกอด ผมก็มองหน้าพี่ก้อย แล้วพูดกับพี่ก้อยว่า "แจ้ โป้งรู้ว่าแจ้เจ็บ โป้งจะเอาออกให้นะ" พี่ก้อยไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่นอนหายใจแรงอยู่อย่างนั้น ผมจึงถอนท่อนควยออกจากร่องหีพี่ก้อย แล้วล้มตัวลงนอนหงายข้าง ๆ พี่ก้อย แต่ตอนนั้นท่อนควยผมยังคงไม่ได้พ่นน้ำเสียวออกมา มันจึงยังคงแข็งและปวดตึบ ๆ อยู่อย่างนั้น ผมจึงนึกถึงการช่วยตัวเอง จึงจัดการช่วยตัวเองจนรู้สึกว่ามันจะไหลแล้ว จึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปคว้ากระดาษทิชชูมาจำนวนหนึ่งก่อนที่จะหุ้มไปที่ส่วนหัวของท่อนควย แล้วน้ำเสียวผมก็พุ่งเข้าจนเต็มกระดาษนั้น และยังไหลล้นออกมาจนเลอะลงพื้น พอหมดจึงเช็ดทำความสะอาดท่อนควย แล้วจึงตามด้วยพื้น ก่อนที่จะเอาไปทิ้ง แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบเอากระดาษมาเช็ดทำความสะอาดร่องหีให้พี่ก้อยด้วย แรก ๆ พี่ก้อยก็ไม่ยอมพยายามแย่งไปเช็ดเอง แต่ผมก็ดึงมาใหม่แล้วพยายามช่วยเช็ด พอเช็ดเสื้อผมก็ลงมานั่งข้าง ๆ ตัวพี่ก้อย ซึ่งตอนนั้นลุกขึ้นนั่งชันเข่าน้ำตาซึมสะอื้นอยู่บนเตียงผม ผมจึงเข้าไปปลอบก่อนที่จะไม่ลืมเอากระดาษอีกชิ้นซับน้ำตาให้พี่ก้อย พี่ก้อยยังคงเอาแต่ร้องไห้ ไม่ว่าผมจะพูดหรือขอโทษอย่างไร "แจ้ โป้งขอโทษนะ โป้งห้ามใจไม่ไหวจริง ๆ " และอะไรอีกต่อมิอะไรที่ผมคิดออกในตอนนั้น ระหว่างที่ผมปลอบพี่ก้อยนั่นเอง ผมก็เริ่มเห็นว่าพี่ก้อยนั้นทั้งน่ารัก และหุ่นดีจริง ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมก็แอบดูตอนอาบน้ำบ่อย แต่นี่มันในระยะประชิดตัวเลย แถมยังได้สัมผัสด้วย มันทำให้ใจผมเต้นอย่างบอกไม่ถูก ตอนนั้นผมเองก็เริ่มรู้ตัวอีกครั้งแล้วว่าเจ้าท่อนควยผมมันเริ่มจะแข็งอีกครั้ง ผมจึงพยายามกลั้นไว้ แต่มันก็กลั้นไม่อยู่จึงตัดสินใจบอกพี่ก้อยไปว่า "แจ้ แจ้ออกไปเถอะ โป้งรู้สึกอยากอีกแล้วนะ โป้งรู้ว่าแจ้เจ็บ แต่โป้งกลัวว่าถ้าแจ้ยังอยู่ โป้งอาจจะทำกับแจ้อีก" ผมพูดไปมือก็พยายามบีบท่อนควยให้รู้สึกเจ็บ แต่มันก็เอาไม่อยู่ ส่วนพี่ก้อยก็ยังคงนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น จนสุดท้ายท่อนควยผมก็เข้าไปอยู่ในร่องหีพี่ก้อยอีกครั้ง คราวนี้พี่ก้อยนอนปล่อยให้ผมเต็มที่ ร้องไห้บ้างในช่วงแรก แต่สุดท้ายก็เริ่มคราง โดยเฉพาะตอนนที่ท่อนควยผมเข้าร้องหีพี่ก้อยหมดแล้ว และเริ่มโยกเข้าออก พี่ก้อยถึงกับผวาและยกสะโพกตามเกือบตลอดจนกระทั่งท่อนควยผมพ่นน้ำเสียวเข้าร่องหีพี่ก้อย พี่ก้อยถึงกับกอดและจูบปากผมแน่น จนกระทั่งท่อนควยผมอ่อนตัวหลุดออกจากร่องหีพี่ก้อย ผมจึงได้ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ พี่ก้อย กอดพี่ก้อยไว้แล้วก็หลับไปทั้งอย่างนั้นจนกระทั่งเช้า ตื่นมาก็ยังคงเห็นพี่ก้อยนอนอยู่บนเตียง ผมจึงลงไปอาบน้ำ สักพักพี่ก้อยก็ตื่นและลงมา พอเจอหน้าผม พี่ก้อยก็มองหน้าผมก่อนที่จะหลบเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ส่วนผมก็ขึนไปจัดการกับเตียงผมที่เหม็นไปด้วยทั้งกลิ่นเหงื่อและกลิ่นคาวจากน้ำเสียวทั้งของผมและของพี่ก้อย พอเอาเข้าเครื่องซักผ้าเสร็จพี่ก้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ ก่อนที่จะรีบหลบขึ้นไปบนห้อง ผมรออยู่จนซักผ้าเสร็จพี่ก้อยก็ยังคงไม่ออกมา จึงตัดสินใจไปหาซื้อของกินโดยซื้อมาเผื่อพี่ก้อยด้วย พอกลับเข้ามา ผมจึงจัดการกับของพี่ซื้อมาก่อนที่จะเรียกพี่ก้อยให้มากิน พี่ก้อยยังคงไม่ลงมา จนผมกินเสร็จและเริ่มง่วงและเพลียจึงหลับที่โซฟา มารู้ตัวอีกครั้งก็เกือบสองชั่วโมงหลังจากนั้น พอตื่นขึ้นมา ก็เห็นพี่ก้อยกำลังนั่งกินของพี่ผมซื้อมาฝาก เป็นจังหวะที่พี่ก้อยกินเสร็จพอดี หลังจากที่พี่ก้อยล้างจานเสร็จ พี่ก้อยก็ทำเป็นจะเดินขึ้นบนห้องผมจึงเดินเข้าไปขวาง พี่ก้อยก็ทำท่าออกอาการกลัว ผมจึงพูดกับพี่ก้อยว่า "แจ้ โป้งไม่ทำแจ้แล้ว แต่อยากคุยด้วยนะ" พี่ก้อยยังคงไม่พูดอะไร ผมจึงเข้าไปดึงมือมานั่งที่โซฟา ก่อนที่จะเข้าไปนั่งประชิดตัว พี่ก้อยเองแรก ๆ ก็ขยับหนี แต่พอสุดโซฟา ก็ทำท่าจะลุก ผมจึงรั้งตัวไว้ กอด ก่อนที่จะถามออกมาไปว่า "แจ้ เสียใจใช่ไหม" เงียบ พี่ก้อยไม่ตอบ ผมจึงถามต่อว่า "โกรธ โป้งใช่เปล่า" พี่ก้อยเงียบอีกครั้ง แต่ผมก็ยังคงพยายามถามต่อว่า "เจ็บมากใช่ไหมเมื่อคืนนะ" พี่ก้อยยังคงไม่ตอบอีก ผมจึงพูดออกไปว่า "ถ้าแจ้เจ็บก็บอก วันหลังถ้าแจ้ยอมอีก จะได้ทำเบา ๆ " คราวนี้พี่ก้อยมองหน้าผม ก่อนที่จะทุบที่ต้นขาผม แล้วพูดว่า "ยังจะมีวันหลังอีกหรือ" ผมจึงยิ้ม ๆ แล้วพูดกลับไปว่า "ถ้าแจ้ยอม เหมือนเมื่อคืนก็ดีนะ" คราวนี้พี่ก้อยมาเป็นชุดใหญ่เลย ก่อนที่จะยิ้มเล็ก แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วพี่ก้อยก็ลุกเดินเข้าห้องไป คืนนั้นผมก็ไม่ได้มีกับพี่ก้อยอีก จนกระทั่งผ่านไปเกือบเดือน คราวนี้พ่อแม่ผมก็ไม่อยู่อีก เพราะมีการจัดตั้งรัฐบาล พ่อแม่ผมจึงต้องไปช่วยปลัดกระทรวงในการทำงาน โดยคราวนี้ต้องค้างบ้างบางวัน หรือไม่ก็ต้องไปต่างจังหวัดบ้าง โดยส่วนใหญ่จะไม่พร้อมกันทั้งสองคน แต่วันนั้นก็พอดีพ่อและแม่ผมต้องไปค้างทั้งคู่ ผมกับพี่สาวจึงมีโอกาสอีกครั้ง โดยวันนั้นหลังจากที่ผมกลับจากโรงเรียน รอจนพี่ก้อยกลับมาจากมหาลัย ซึ่งก็ดึกพอสมควร พอพี่ก้อยเข้าบ้านมา ผมและพี่ก้อยก็รู้ล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้ทั้งพ่อและแม่ผมไม่กลับบ้าน จึงปิดประตูบ้านก่อนที่พี่ก้อยจะเดินขึ้นไปห้อง ผมก็โผเข้ากอดพี่ก้อย หอมแก้ม แล้วพูดว่า "คิดว่าจะไม่กลับมาแล้ว" พี่ก้อยได้ยินก็มองหน้า แล้วพูดกลับมาว่า "จะทำอะไรอีกนะเรา ไม่เอาแล้วนะ" แล้วพี่ก้อยก็แกะแขนผมแล้วเดินเข้าห้องก่อนที่จะออกมาอาบน้ำ ผมจึงรอพี่ก้อยจนอาบน้ำเสร็จ พอพี่ก้อยอาบเสร็จ ผมก็โผเข้ากอดอีกครั้ง แล้วก็ไม่รออะไร รีบประกบปากพี่ก้อยทันที แรก ๆ พี่ก้อยก็ขัดขืนและห้ามนิดหน่อย แต่ผมก็ดื้อ จนสุดท้ายก็เอาพี่ก้อยทีโซฟาข้างล่างนั่นหนึ่งรอบ ก่อนที่จะตกลงกันว่า จะไปต่อกันที่ห้องพี่ก้อย ผมจึงอุ้มพี่ก้อยขึ้นห้องพี่ก้อยทั้งที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยอย่างนั้น แล้วคืนนั้นผมก็เอาพี่ก้อยไปอีกสองรอบ ก่อนที่จะหลับไปเพราะรุ่งขึ้นต้องมีเรียน พอเรียนเสร็จผมก็รีบกลับบ้าน รอพี่ก้อยกลับมา แล้วก็เอากันอีก เป็นอย่างนี้ 3 วัน เพราะพ่อแม่ผมยังไม่กลับ พอแม่กลับมา ผมกับพี่ก้อยก็ต้องแยกกัน ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวแม่รู้ จะมีบ้างที่บางวันอดใจไม่ไหว พอพี่ก้อยกลับมาก็พาเข้าห้องผมนั่นแหละ พอเอาเสร็จ ถ้าออกมาเจอแม่ ก็ทำเป็นเหมือนกันว่าพี่ก้อยมาใช้คอมห้องผม แต่ถ้าไม่เจอใครก็ทำเป็นเหมือนปกติ ปิดเทอมทีถึงจะเอากันตอนกลางวันที่พ่อแม่ผมไปทำงาน แต่ถ้าอยากเอากันกลางคืน บางครั้งก็ชวนกันไปเที่ยว โดยบอกพ่อแม่ว่าไปค้างต่างจังหวัด แต่จริง ๆ แล้วก็กรุงเทพนี่แหละ โดยเช่าห้องพักแบบรายวันที่ไกล ๆ บ้านหน่อย แล้วก็นอนเอากันทั้งกลางวัน และกลางคืน พอกลับบ้านก็ทำตัวเหมือนปกติ ซึ่งผมกับพี่ก้อยก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่ที่ผิดแปลกไปก็คือ รูปร่างก้อยที่ก่อนหน้านี้ ไม่ค่อยมีหน้าอกเท่าไร สะโพกก็ไม่ค่อยผาย แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไม้เต็มมือชวนมองไปหมด จนหนุ่ม ๆ ที่มหาลัยพี่ก้อย และเพื่อนๆ ผมต่างพากันแย่งจีบ โดยไม่มีใครรู้ว่าพี่ก้อยเป็นเมียผมนั่นเอง

เย็ดหีอ่านเรื่องเสียวดูรูปโป๊เย็ดxxxหนังโป๊