มาเมซอง คอนโด ...ตอนที่ 2 (เรื่องเสียวๆ)
“ว่าไงเป้า มาเข้าเวรไวอีกตามเคยนะเรา” เสียงผู้จัดการซึ่งเป็นหัวหน้าไอ้เป้าเข้ามาทักทายแบบคุ้นเคยตามปกติ “ครับ อยู่บ้านไม่รู้จะทำอะไรเลยออกมาที่ทำงานดีกว่าอย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย” ไอ้เป้าก็ตอบไปไม่ต่างจากทุกครั้งที่โดนถาม เพราะถึงแม้ไอ้เป้ามันจะมีประวัติที่ร้ายกาจเคยติดคุกมาก่อน(ซึ่งมันก็ปกปิดประวัตินี้เอาไว้ตอนสมัครงาน)แล้วก็ตาม แต่เวลามันรับจ้างองค์กรไหนทำงาน มันก็มักจะทำตัวขยันเกินเหตุอยู่เสมอเพื่อชดเชยกับรูปร่างหน้าตาที่ดูยังกับโจร ด้วยผิวที่คล้ำ แถมหน้าตาหยาบกร้านมีริ้วรอย ทั้งที่พึ่งจะอายุแค่ 20 ปลายๆเท่านั้นเองทำให้อาจจะดูน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับมัน เพราะตัวมันเองก็ไม่อยากเปลี่ยนงานบ่อย อยู่ที่ไหนก็อยากอยู่นานๆเลยต้องเอาความขยันเข้าแลก จนผู้จัดการก็ค่อนข้างชื่นชมในความขยันของมัน มันชอบมาก่อนเวลาเริ่มงานประมาณครึ่งชั่วโมง ทำให้บางคนที่ใกล้จะออกเวรแต่ว่างานส่งพิชซ่ายังมีค้างอยู่ก็มักจะจ้างมันไปส่งแทนแถวใกล้ๆเป็นกรณีพิเศษ แล้วก็อาจให้เป็นเงินค่าเบียร์ ค่าบุหรี่บ้างแล้วแต่ใครอยากให้อะไร ซึ่งไอ้เป้ามันก็ไม่เคยเรียกร้อง ให้อะไรมาเอาหมด และครั้งนี้ก็เช่นกัน เพื่อนพนักงานส่งของที่เป็นรุ่นพี่ก็โดนเมียโทรตามยิกๆ เพราะกลัวเลิกงานแล้วจะไปกินเหล้าต่อทั้งๆที่ยังเหลืองานส่งพิชซ่าอีกสองสามที่ เลยต้องใช้บริการไอ้เป้าให้ช่วยไปส่งของที่ยังค้างลูกค้าอยู่ “ยังไงข้าวานเอ็งช่วงถนนศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ด้วยนะ ลูกค้ามันก็จะเอาด่วนเหลือเกิน ส่วนข้าจะต้องไปอีกที่แล้วคงจะเลยกลับบ้านไปเลย ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเลี้ยงข้าวตอบแทนเว้ย” “ไม่มีปัญหาครับพี่อีกหลายนาทีกว่าจะถึงเวลางานผม ใกล้แค่นี้เดี๋ยวจัดให้” ไอ้เป้าตอบรับอย่างเต็มใจเหมือนคนมีน้ำใจ ว่าแล้วมันก็รับใบเบิกของจากรุ่นพี่ แล้วเอาไปรับพิชซ่าอันหอมกรุ่น จากห้องผลิต แล้วก็เอาขึ้นมอเตอร์ไซด์บึ่งออกไปทันที
"คุณเจนนี่ค่ะ.. คุณเจนนี่ อยู่หรือเปล่า" เสียงแม่บ้านที่เอาเสื้อผ้ามาส่งทั้งเรียก และกดกิ่งหน้าห้องอย่างดังหลายครั้ง แต่ก็ปราศจากเสียงตอบรับ หรือใครสักคนที่จะเดินมาเปิดประตู ภายในห้องคอนโดส่วนตัวสุดหรู กับแอร์ที่เย็นสบาย เสียงเพลงแนวป๊อบแจ๊สกล่อมเบาๆจนเจนนี่ก็เผลอหลับไปอีกครั้ง ทั้งๆที่ยังเสียบซาวด์อเบาท์อยู่ที่หู ยากนักที่จะได้ยินเสียงกิ่ง หรือเสียงคนเรียกจากข้างนอก "เฮ่อ ยังไงนี่คุณเจน นัดให้เราเอาผ้ามาให้ แต่เรียกไม่ยอมเปิดจะอยู่มั้ยนะ" แม่บ้านเริ่มบ่น และถอดใจที่จะรอเจ้าของห้องมาเปิดประตูแล้วเสียแล้ว พลางนึกในใจ ..สงสัยไม่อยู่มั้ง ตอนเย็นค่อยมาอีกทีดีกว่าเรา.. "เอ่อ ขอโทษครับ นี่ห้อง 2418 หรือเปล่าครับ" เสียงมาจากข้างตัวแม่บ้านนั่นเอง เล่นเอาแม่บ้านถึงกับสะดุ้งเพราะไม่ทันได้ดูว่ามีคนมาใกล้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ "คือผมจะเอาพิซซ่ามาส่งน่ะครับ เจ้าของห้องพึ่งโทรไปสั่งเมื่อสักครู่" ไอ้เป้ารีบรายงานถึงวัตถุประสงค์การมาของมัน ทั้งๆที่การแต่งตัวในชุดยูนิฟอร์มทำงานไม่ต้องอธิบายอะไรใครก็รู้ว่าคงไม่ได้มาส่งขนมจีบซาลาเปาแน่ๆ แม่บ้านเองก็มองไอ้เป้าแบบงงๆ คงแปลกใจว่านี่มันโจรหรือเด็กส่งพิซซ่ากันแน่ ถ้าไอ้เป้าไม่ได้แต่งตัวชุดส่งพิซ่าซ่า พร้อมกับถือพิซซ่าในมือมาด้วย แม่บ้านแกคงโทรแจ้งตำราจแน่ๆ "อ้าว ยังงี้ก็แสดงว่าคุณเจนนี่แกอยู่สิ ไม่งั้นคงสั่งของมากินไม่ได้" แม่บ้านบ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบไอ้เป้า "ใช่ ห้องนี้แหละ 2418 แต่ชั้นไม่แน่ใจนะว่าเจ้าของห้องจะอยู่หรือเปล่า ยังไงนายก็ลองเรียกดูเอาเองละกัน เพราะชั้นเรียกจนเมื่อยแล้วไม่เห็นมีใครมาเปิด" แม่บ้านพูดด้วยยังมีความรู้สึกหงุดหงิดอยู่ "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะลองกดกิ่งเรียกไปเรื่อยๆดู เพราะกฏของเรา เมื่อเอาของมาแล้วก็ต้องส่งถึงมือลูกค้าให้ได้" ด้วยประสบการณ์ไอ้เป้าไม่ค่อยสะทกท้านเรื่องที่มาส่งของแล้วไม่เจออยู่แล้ว เพราะมันมั่นใจว่าถ้ามีคนสั่ง ก็ต้องมีคนอยู่รับของเสมอ "งั้นก็ตามใจนะ แต่ไหนๆก็ไหนๆนะถ้าแกมั่นใจนัก ชั้นก็ฝากเสื้อผ้านี่ให้คุณเจนนี่ด้วยเลยละกัน" ยายแม่บ้านถือโอกาสปัดภาระออกจากตัวไปซะเลยเพราะขี้เกียจรอ ว่าแล้วแกก็ยื่นไม้แขวนเสื้อที่มีทั้งชุดแซ่ก กางเกงยืน และชุดไปรเวทอยู่ประมาณ 3-4 ชุด ส่งให้ไอ้เป้าถือ ไอ้เป้าไม่รู้จะปฏิเสธยังไงก็ต้องเอามืออีกข้างที่ไม่ได้ถือพิซซ่ารับมาแต่โดยดี แล้วยายแม่บ้านก็เดินจากไปอย่างไม่แยแสอะไร ไอ้เป้าก็พยายามเอามือข้างที่ถือไม้แขวนชุดเสื้อผ้าด้วยเอื้อมไปกดกิ่งด้วยอย่างทุกลักทุเล แบตเตอรี่ในตัว IPOD เครื่องเล่น MP3 ของเจนนี่หมดลง เสียงเพลงก็หยุดมีแต่ความเงียบที่ไหลผ่านเข้าหูเธอ ทันใดนั้นเสียงจากกิ่งที่มีคนกดจากข้างนอกก็แทรกเข้ามาในหูเธอทันที เจนนี่สะดุ้งลุกขึ้นนั่งอย่างไว "อุ้ย ตายละเราหลับไปอีกเหรอเนี่ย น่าอายจังเราหลับได้หลับดี" เสียงกิ่งหน้าประตูก็ยังดังอยู่เป็นระยะๆ ...โอย ป้าแก้วบ่นเราตายแน่... ด้วยพึ่งตื่นเจนนี่ไม่ได้คิดถึงอะไร นอกจากนึกได้ว่านัดแม่บ้านที่ชื่อป้าแก้วให้เอาเสื้อผ้าที่ซักรีดแล้วมาส่ง แล้วป้าแกก็ขี้บ่นด้วย เจนนี่ไม่อยากรำคานเหมือนที่เคยโดนบ่นมา จึงรีบลุกเดินกิ่งวิ่งออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว แล้วตรงไปยังประตูหน้าห้อง โดยที่ภายในตัวของเธอเองก็ไม่ได้ใส่อาภรณ์อะไรเลยเนื่องจากพออาบน้ำเสร็จใส่ได้แค่ชุดคลุมผ้าขนหนูแล้วก็เผลอฟังเพลงหลับไป แต่ด้วยคิดว่าเป็นป้าแก้วแม่บ้านที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เจนนี่ก็ไม่ได้คิดระวังอะไรมาก ก็แค่รวบจัดชุดคลุมใส่ดีๆไม่ให้รุ่มร่าม แล้วก็ผูกเชือกรัดที่เอวแบบรวกๆเพราะความที่ต้องรีบจะไปเปิดประตู แต่เธอก็ลืมคิดไปอย่างหนึ่งว่า เธอพึ่งสั่งพิซซ่าไป ซึ่งเธอก็ไม่ทันคิดว่าจะกลายเป็นคนส่งพิซซ่าไปได้ และทันใดที่เธอเอื้อมมือเปิดประตูออกไปนั้น ภาพของผู้มาเยือนหน้าประตูนั้นหาได้เป็นป้าแก้วแม่บ้านอย่างที่เธอคิดไม่ แต่กลับกลายเป็นคนส่งพิซซ่าซึ่งเป็นชายรูปร่างดำคล้ำดูบึกบึนแบบกรรมกร แต่ก็ไม่ได้ถึงกลับทำให้เจนนี่แปลกใจอะไรมาก เพราะเธอก็ฉุกคิดได้เดี๋ยวนั้นทันทีว่า ..เออ ลืมไปเราก็สั่งพิซซ่าไว้เหมือนกันนี่.. แต่ก็ทำให้เธอนึกตำหนิตัวเองว่าน่าจะแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ก่อนจะเปิดประตูออกมา แต่นึกอีกทีก็ช่างเถอะ ชุดคลุมนี่ก็มิดชิดพอ คงไม่มีใครรู้หรอกว่าภายใต้ชุดคลุมนี้มันมีแต่เนื้อหนังมังสา อีกอย่างก็แค่พนักงานมาส่งพิซซ่า ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากนัก แค่รับพิซซ่าแล้วก็จบ แต่ไอ้เป้าสิ มันเซอร์ไพส์มากๆ ที่คนสั่งพิซซ่าคือเจนนี่ดาราสาวที่มันชื่นชอบจนแอบบเอาไปชักว่าวไม่รู้ตั้งกี่รอบ "ขอโทษด้วยครับ เอาพิซซ่าที่คุณสั่งไว้มาส่งครับ และเมื่อกี้แม่บ้านก็ฝากชุดเหล่านี้ไว้ให้คุณด้วยครับ" ไอ้เป้าพยายามพูดโดยที่ภายในใจนั้นต้องสะกดอารมณ์อย่างเต็มที่ไม่ให้ตื่นเต้น เพราะมันเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเจนนี่ ดาราสาวในชุดที่ดูเป็นส่วนตัวขนาดนี้ เจนนี่ตัวจริงดูขาวใสกว่าที่มันเคยเห็นในทีวีมาก แต่มันเองก็พยายามห้ามใจอย่างเต็มที่ไม่ให้คิดอะไรเตลิดมากไปกว่านี้ ขอแค่รีบทำหน้าที่ให้เสร็จอย่างมากก็เก็บเอาภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ไปชักว่าวก็ได้ "ส่วนค่าพิซซ่าก็ 379 บาทครับ" ไอ้เป้ารีบบอกราคาเสร็จสรรพพร้อมกับยื่นไม้แขวนชุดเสื้อผ้าให้ และก็ส่งถุงพิซซ่าให้เจนนี่ถืออีกมือหนึ่ง เพื่อจะรีบปิดงานนี้ให้ไวที่สุด เพราะมันเองก็เกรงว่าท่อนลึงค์ของมันจะตุงเป้าออกมาให้ดาราสาวที่มันชื่นชอบเห็นเอาเสียก่อน เจนนี่เองก็ไม่อยากใช้เวลาในสภาพนี้นานนักเหมือนกัน แต่ก็เหมือนมีอะไรมาแกล้ง เพราะว่าเธอรีบลุกมาเปิดประตูไวเกินไป และไม่คิดว่าจะเป็นพิซซ่ามาส่ง เลยไม่ได้หยิบเอาเงินติดมือมาด้วย "ตายเลย เจนนี่ลืมหยิบเงินมาค่ะ ไม่คิดว่าจะมาส่งไวขนาดนี้ ยังไงคุณยืนรอสักครู่ได้ไหม" เธอรู้ตัวว่าลืมไปจริงๆ แต่ก็อีกนั่นแหละคิดว่าแค่เข้าไปหยิบเงินแป้บเดียวไม่ได้นานอะไร คนส่งพิซซ่ารออีกนิดเดียวจะเป็นไรไป ว่าแล้วเธอก็หมุนตัวหันหลังกลับโดยไม่ได้ปิดประตู ก็เห็นว่ากระเป๋าเงินวางอยู่ชั้นล่างของตู้โชว์ใกล้ๆนี่เองเดินแค่ 3 ก้าวก็ถึงแล้ว แต่ในจังหวะที่เจนนี่หมุนตัวได้แค่ครึ่งรอบเธอก็ร้องว๊ายเสียงดังขึ้นมากแบบตกใจมาก โดยจังหวะที่ยังหันด้านข้างให้ไอ้เป้าอยู่ทันใดนั้นเชือกเจ้ากรรมของชุดคลุมที่ผูกเอวของเธอไว้แบบรวกๆอยู่ก็เกิดคลายตัวและหลุดออกจากกันดื้อๆอย่างไม่ตั้งใจ สาบเสื้อทั้งสองข้างแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว เหมือนกันม่านของโรงละครที่ถูกแยกออกจากกัน เพื่อเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้หลังม่านนั้น เพียงแต่ยังดีว่าเป็นจังหวะที่เธอหันข้าง และกำลังจะหมุนตัวหันหลังให้พอดี แม้ภายในใต้ชุดคลุมจะไม่มีสิ่งใดปกปิดอีกแล้วก็ตาม แต่เจ้าเป้าก็ทันได้เห็นเพียงแค่แว๊บเดียว โดยที่เจ้าของร่างกายไม่ได้เปิดโอกาสให้ได้เห็นจะๆเลยเพราะเธอรีบหันหลังไอ้เจ้าเป้าทันที มือก็ถือของเต็มไปหมดจะดึงชุดคลุมมารวบปิดก็ไม่ทัน แต่เมื่อเธอหันหลังได้ก็รีบของของที่อยู่บนมือทุกอย่างลงบนโซว์ฟาทันทีพร้อมกับดึงเชือกของชุดคลุมมาผูกเอวอีกครั้งอย่างแน่นหนาปานกับว่าจะไม่แกะมันออกอีกแล้วในชาตินี้ ฝ่ายไอ้เป้ามันเองก็ตะลึงสุดๆแต่ถึงจะเป็นแวบเดียว สายตากับสมองของไอ้เป้ามันก็บันทึกทุกอย่างได้ไวมาก กับภาพของเนินอกที่ขาวจั๊ว หน้าท้องเนียนแบนราบ และขนอุกอุยตรงของสงวนที่ได้รูปเป็นกระจับสวยงาม จากภาพที่เห็นส่งสั่งการไปยังสมองให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่ท่อนกายเบื้องล่างของมันให้ทำงานอย่างทันทีโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ท่อนควยขนาด 7 นิ้วของมันที่ตรงและใหญ่กำลังพอดี ได้ผงาดดันกางเกงที่ปกปิดภายนอกอยู่จนตุงออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เจนนี่เองก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าเป้าจะเห็นอะไรแค่ไหน แต่เธอก็คิดว่าช่างมันเถอะ รีบๆเอาเงินให้มันซะจะได้ไปๆซักทีไม่อยากถือสาอะไรมาก แต่อะไรๆกลับไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด เพราะกระเป่าตังค์ดันวางอยู่ชั้นล่างของตู้โชว์นี่สิ ทำให้เธอต้องก้มตัวลงไปหยิบมัน และในจังหวะที่ก้มลงไปก็ทำให้สะโพกของเธอเผลอลอยสูงขึ้นมา สิ่งที่ไอ้เป้าเห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือก้นที่กลมกลึง เห็นเป็นรอยร่องก้นผ่านชุดคลุมที่เจนนี่สวมใส่อยู่ ทำให้ท่อนลึงค์ที่แข็งอยู่แล้วยิ่งแข็งหนักเข้าไปอีกจนแทบจะระเบิด ตายเริ่มลาย หูเริ่มอื้อ สมองมันเริ่มสับสนไปหมด สิ่งที่อยู่ด้านมืดเริ่มเข้าครอบงำจิตใจ ส่วนเจนนี่เองก็มัวแต่เลือกเอาเงินใบละร้อยออกจากกระเป๋า 4 ใบกะให้ทั้งหมดโดยไม่เอาเงินทอน เพื่อจะได้เสร็จธุระตรงนี้ไวๆ แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไรต่อไปนั้น เธอก็รู้สึกว่าเหมือนถูกอะไรแข็งๆฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างจัง แสงสว่างที่เธอรับรู้อยู่ดีๆก็พลันมืดดับลงแล้วเธอก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
เจนนี่เหมือนกับอยู่ในอาการหลับ มีภาพความฝันที่เกิดจากส่วนลึกของจิตใจแทรกเข้ามา ภาพฝันเหมือนพาเธอย้อนกลับไปยังเหตุการณ์เมื่อคืน พี่บัสกำลังกดแขนเธอทั้งสองข้างวางราบเหนือศรีษะบนพื้นในห้องคาราโอเกะในสภาพที่เธอไม่เหลืออะไรสักชิ้นบนร่างกาย เจนนี่รู้สึกเสียววาบกับการที่ถูกพี่บัสเอาลิ้นเลียไล้ลากตั้งแต่ข้อมือ ต้นแขน ลงมาใต้วงแขน ลิ้นสากๆถูกลากไล้ผ่านเนินอกทั้งสองข้าง มาสู่ใต้วงแขนอีกข้างหนึ่ง ในขณะที่เนินสามเหลี่ยมของเธอก็เสียวซ่านไม่แพ้กันเมื่อถูกนิ้วพี่บัสกรีดผ่านร่องสงวนไปมา ในฝันเธออยากจะตะโกนต่อว่าพี่บัสเหลือเกินที่ทำกับเธอแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไมเธอเปร่งเสียงไม่ออก เหมือนกับคนถูกผีอำ ความกำหนัดเสียวซ่านอยู่ภายในเริ่มทำให้เธอชาไปทั้งตัว เธอก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันในเมื่อขยะแขยงกับการกระทำของพี่บัส แต่ทำไมอีกใจกลับไม่อยากให้พี่บัสหยุดทำแบบนี้เลย ในขณะที่ความฝันของเธอกำลังเลยเถิดนั้น ก็เหมือนมีอะไรเย็นๆมาลูบไปมาบนหน้าของเธอ ความฝันที่พี่บัสกำลังรุกไล้เธออยู่นั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป เหมือนมีแสงสว่างเข้ามาแทนที่ เจนนี่ค่อยๆลืมตาตาขึ้นอย่างช้าๆ เธอเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเธอกำลังจะตื่นออกจากความฝันเพื่อเข้าสู่โลกแห่งความจริง เธอไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ แต่ที่แน่นอนที่สุด เธอกลับขยับแขนอะไรไม่ได้เลย มันเหมือนมีอะไรมารั้งข้อมือเธอเอาไว้ เจนนี่ดาราสาวสวย เธอจะรู้ไหมหนอว่ากำลังจะตื่นจากฝันร้าน เพื่อเจอกับความจริงที่ร้ายยิ่งกว่าความฝันหลายร้อยเท่านัก ...ต่อตอนที่ 3