close buttonclose buttonclose button
รักยม ตอนที่ 37 อดีตของเสือร้าย 1 (เสียวหี)
*

เล่าเรื่องเสียว

  • เรื่องเสียว
  • *****
  • 5772
    • View Profile
รักยม ตอนที่ 37 อดีตของเสือร้าย 1 (เสียวหี)

      ค่ำคืนเดือนมืดอันแสนสงบเงียบแถบย่านชนบท ที่ซึ่งห่างไกลจากผู้คน แสงไฟ และความเจริญ เสียงจิ้งหรีดหวีดร้องระงมแข่งกับเสียงลมที่พัด
หวีดหวิวรุนแรง แรงลมพัดกวาดเอาใบไม้ใบหญ้ากรอบแห้งจนปลิวร่อนไสวราวกับกำลังเริงระบำ นกฮูกสีน้ำตาลตัวใหญ่ใช้กรงเล็บเกาะจิกอยู่ที่
กิ่งไม้ใหญ่เพื่อทรงตัวต้านแรงลมที่โหมกระหน่ำพัดใส่ มันรู้สึกเกียจคร้านที่จะต้องบินออกหาอาหารตามปกติในยามค่ำคืน จึงเอาแต่บรรจงใช้
จงอยปากซุกไซร้ทำความสะอาดขนปีกของตัวเองอย่างละเมียดละไมอยู่เนิ่นนาน แต่ไม่นานนักมันก็มีอันต้องสะดุ้งเฮือก ดีดเด้งตัวเองตีปีกพึ่บพั่บ
สุดชีวิตบินฝ่าแรงลมอันหนาวเหน็บออกไปด้วยความตกใจกลัว เมื่อได้ยินเสียงร้องลั่นออกมาจากกระท่อมไม้ผุ ๆ เบื้องหน้า
"เฮ้ยย !!!" ชายแก่ในกระท่อมผุ ๆ ร้องออกมาด้วยความตื่นตะลึง เมื่ออยู่ดี ๆ วิญญาณผีสาวที่เคยอยู่ในการควบคุมของเขา มาปรากฎอยู่ตรงหน้า
ไม่ทันที่จะได้คิดอะไร ผีสาวก็แสยะยิ้มออกอย่างน่ากลัวแล้วพุ่งตัวมุดเข้าไปในร่างของชายแก่อย่างรวดเร็ว

"อ๊ากกกกก ... อีผีบ้าเอ๊ย" ชายแก่ในกระท่อมร้างแหกปากร้องเสียงดังลั่น ความรู้สึกเย็นวาบแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของร่างกายอย่างรวดเร็ว
เขาเอาสองมือบีบกุมขมับของตัวเองแน่น เส้นเลือดที่บริเวณหน้าผากกระตุกปูดโปนออกมาราวกับจะแตกกระจายออก เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมา
ทั่วร่างจนเปียกชุ่ม เสียงกรอด ๆ ของฟันที่บดกระแทกกันอย่างรุนแรง บ่งบอกได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวของชายแก่คนนี้ได้อย่างดี เลือดสีแดง
สดซึมไหลออกมาทางจมูกอันเหี่ยวย่นลงไปนองเต็มพื้น เขาหอบหายใจเสียงดังฟึดฟัดหนักหน่วงรุนแรง ร่างบึกบึนที่ไม่เข้ากันกับวัยชราของเจ้า
ของร่างนั้นสั่นระริกเหมือนกับกำลังจะขาดอากาศตาย เขาต่อสู้อย่างเต็มที่กับวิญญาณผีสาวสุดเฮี้ยนที่กำลังพยายามแย่งชิงและครอบ ครองร่างกาย
ของเขา เฉกเช่นเดียวกับที่เขาเคยสั่งให้มันไปทำกับเหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย

"อ๊ากกกกกก ... ชะ ช่วยด้วย" ชายแก่ดิ้นพราด ๆ อย่างทรมาณ เขาพยายามตะเบ็งเสียงร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดวงตาอันพร่ามัวเพ่ง
มองออกไปทางมุมมืดของกระท่อม พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากใครบางคน ที่นั่นมีเงาตะคุ่ม ๆ ของร่างเล็ก ๆ สองร่าง พวกมันหันเหลือบ
มามองดูชายแก่ด้วยดวงตาเป็นประกายสีเขียววาวครู่นึง ก่อนที่จะส่ายหน้าและหันกลับไปเหมือนกับไม่สนใจในคำร้องขอให้ช่วยเหลือของชายแก่
"......." ชายแก่คอตกเมื่อไร้สิ้นซึ่งความช่วยเหลือดังที่คาดหวัง เขารู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อทั่้วร่างกำลังฉีกขาดออกจากกัน เส้นเลือดปูดโปนวิ่งไปทั่ว
ร่างแลดูน่ากลัว ชายแก่ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมอย่างไร้ทางสู้ เขาดิ้นตัวพราด ๆ ไปมาอยู่กับพื้นดินอยู่เนิ่นนาน จวบจนกระทั่งฟ้าสาง แสงแดดยาม
เช้าสาดส่องผ่านช่องว่างของผนังบ้านเข้ามากระทบกับร่างกำยำที่เต็มไปด้วยรอย สัก อาการปวดร้าวจึงได้เริ่มทุเลาลง เขารู้ดีว่าฤทธิ์เดชของภูติผีจะ
รุนแรงเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น และลดลงในช่วงกลางวันเมื่อต้องแสงอาทิตย์ เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ สูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อตั้ง
จิตสมาธิ ก่อนที่จะขยับปากงุบงิบร่ายบริกรรมคาถาพยายามปรับสภาพร่างกายให้กลับเป็นเหมือนเดิม และเหมือนจะใช้เวลาไม่นานนัก เขาก็เริ่ม
หายใจสงบนิ่งเป็นปรกติได้

"ใครมันแน่ ขนาดแก้มนต์กูได้วะ" ชายแก่สบถออกมาอย่างเคียดแค้น เมื่อเริ่มควบคุมตัวเองได้ ประสบการณ์ทางด้านศาสตร์ด้านมืดของเขาบ่ง
บอกได้ว่า เขาเพิ่งจะโดนสิ่งที่เรียกว่าของย้อนเข้าตัว มันเป็นเรื่องธรรมดาของหมอผีที่ใช้อวิชา หรือไสยศาสตร์ เมื่อทำการสาปแช่งผู้อื่นไป
หากมีคนไปแก้ไขมนต์นั้น ๆ ได้ มนต์ดำนั้นก็จะส่งผลย้อนกลับไปยังผู้สร้างทันที ความรุนแรงของการย้อนกลับก็จะพอ ๆ กับสิ่งที่ทำไว้กับคนอื่น
หรือในบางกรณีก็จะแรงกว่าเดิมหลายเท่า วิญญาณผีสาวร่านสวาทที่ย้อนกลับมาเล่นงานเขา บ่งบอกว่าสาวบ้านนาที่เขาเคยยัดเยียดความเป็นผัว
ให้เมื่อหลายวันก่อนได้หลุดออกจากมนตรามหาเสน่ห์ของเขาเสียแล้ว หัวสมองเริ่มคิดหาความเป็นไปได้ ความหยิ่งทะนงในฝีมือตนเอง ทำให้
เขาเชื่อว่าไม่มีใครหน้าไหนในโลกนี้สามารถที่จะต่อกรกับพลังมนตราของเขาได้ โดยเฉพาะเมื่อมีอำนาจไร้เทียมทานของรักยมที่คอยช่วยกำกับ
เพิ่มพลังเข้าไปด้วยอีกแรง คนที่สามารถแก้สิ่งนี้ออกได้ จะต้องมีพลังอำนาจแห่งมนตราไม่ด้อยกว่าที่เขามีอย่างแน่นอน ใบหน้าเหี่ยวย่นของชายแก่
ปรากฎร่องรอยความหวาดวิตกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาเนิ่นนาน

"รักยม ทำไมเมื่อกี้พวกมึงไม่ช่วยกู บอกมา !!" หมอผีทรงอำนาจ หรือมหาโจร ที่ตำรวจรู้จักกันในนามเสือ ร้องถามด้วยอารมณ์โกรธแค้น เขา
เหลือบตาไปมองร่างเด็กเล็ก ๆ สองร่างที่นั่งยอง ๆ หันหลังให้อยู่บริเวณมุมมืดของบ้านห้อง เด็กน้อยทั้งสองหันมาส่ายหน้าตอบอย่างเชื่องช้า
ดวงตาฉายประกายสีเขียวแวววาววับอย่างน่ากลัว ขณะที่ปากยังคงขยับเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่หยับ ๆ ไม่หยุด คราบเลือดสีแดงยังคงติดเลอะเปรอะ
อยู่เต็มปากและมือเล็ก ๆ ของพวกเขา แสงแดดที่สาดส่องลงมากระทบพื้นเบื้องหน้า เผยให้เห็นซากไก่เคราะห์ร้ายนอนกระตุกพะงาบ ๆ อยู่
โดยที่ส่วนปีกและขาโดนฉีกทึ้งออกมาทั้ง ๆ ที่มันยังไม่ตาย เลือดสด ๆ ไหลนองออกมาช้า ๆ พร้อม ๆ ไปกับชีวิตของไก่น่าสงสารที่เริ่มจะหลุดลอย
ออกไปทีละน้อย สองเด็กน้อยส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่จะหันใบหน้าที่ซีดเซียวราวซากศพกลับไปสนใจปีกและขาของไก่ที่อยู่ใน มือ ก่อนที่จะยัดมัน
เข้าปาก แล้วเคี้ยวหยับ ๆ ดูดกินเลือดสด ๆ คาว ๆ เข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อย
"......" ชายแก่พูดไม่ออก เขารู้ดีว่าหากโดนสิ่งที่เรียกว่าของย้อนเข้าตัว ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาช่วยเหลือได้ แต่เขาก็คาดหวังว่าอย่างน้อยรักยม
ก็น่าจะลองพยายามช่วยเหลือเขาหน่อย ไม่ใช่ทำเหมือนไม่สนใจใยดีแบบนี้ เขาพยายามครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่า ใครหน้าไหนที่
ทำแบบนี้ได้ ประสบการณ์อันโชกโชนค่อนชีวิต ที่เค้าผาดโผนไปทั่วประเทศ ไม่เคยเลยที่เขาจะเจอะเจอกับใครที่มีฝีมือทัดเทียมหรือใกล้เคียงกับ
เค้าแม้แต่ครั้งเดียวเลย เขานั่งสงบจิตอยู่เนิ่นนานเพื่อเพ่งมองเผื่อว่าจะเห็นอะไรบ้างแต่ก็ไร้ซึ่งสัญญาณบอกเหตใด ๆ ภายใต้สภาวะจิต

"อีกนิดเดียว กูก็จะถึงบ้านดงเหล็กแล้ว แต่นี่ต้องมาเจออีผีบ้านี่เป็นอุปสรรคอีก ... เอาวะกูจะสู้กับมึงซักตั้ง" ชายแก่บ่นสบถออกมาอย่างหัวเสีย
วันพรุ่งนี้เขาก็จะถึงเป้าหมายอันสูงสุดของเขาแล้ว หากแต่เมื่อโดนของย้อนกลับแบบนี้ เขาจำเป็นที่จะต้องทำพิธีสะกดวิญญาณผีสาวใหม่ โดยที่
จะต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 13 วัน 13 คืน หากไม่แล้ว เขาจะต้องทนทรมาณต่อการแก้แค้นของผีสาวในทุกยามค่ำคืนที่ไร้แสงอาทิตย์
"ช่างเถอะ ... มันจะเป็นใครก็ตาม ไว้ให้กูได้เหล็กไหลของแท้มาก่อน กูก็จะไร้เทียมทาน" เสือเฒ่ายิ้มออกอย่างเจ้าเล่ห์และเหี้ยมเกรียม ใครก็
ตามแต่ที่บังอาจขัดขวางแผนการณ์ของเขาจะต้องไม่ได้พบจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน
"และโดยเฉพาะ พวกมึง ไอ้แสง ไอ้คง พวกมึงต้องไม่ตายดีแน่ ๆ ไม่ว่าพวกมึงจะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่" ชายแก่พูดน้ำเสียงดุดันกว่าเก่า
แววตาที่เหี้ยมเกรียมเป็นปกติอยู่แล้ว กลับยิ่งดุดันและเหี้ยมเกรียมรุนแรงมากยิ่งกว่าเก่า มันเหมือนกับภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดออกอยู่ทุกเมื่อ
เพียงแค่นึกถึงคู่แค้นเก่า ก็ทำเอาตัวเขาสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด

"แตงเอ้ย .... รออีกหน่อยนะ ... ได้เหล็กไหลเมื่อไหร่ข้าจะทำให้เอ็งคืนชีพให้ได้ ... แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกัน ... อีกครั้ง" ชายแก่ล้วงเข้าไปในย่าม
เก่า ๆ พร้อมกับหยิบเอารูปวาดด้วยดินสอสีดำที่เริ่มจะขาดวิ่นออกมาประคองถือไว้ อย่างทะนุถนอม แววตาอาฆาตแค้นเมื่อครู่นี้ กลับเปลี่ยนไป
เป็นสายตาแห่งความรักและห่วงหาอาทรเท่าที่เขาจะพึงมีได้ ... น้ำตาหยดใส ๆ ไหลเอ่อล้นออกมาจากมหาโจรจอมโหดแห่งยุคอย่างไม่น่าเป็นไปได้
และเมื่อเขาหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ภาพความทรงจำแห่งอดีตอันโหดร้ายก็ค่อย ๆ ปรากฎขึ้นในห้วงแห่งความคิดของเสือร้ายอย่างชัดเจนราวกับเพิ่ง
เกิดขึ้น แม้นว่าความจริงแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะผ่านเวลามาเนิ่นนานนับ 30 ปี แล้วก็ตาม

.........................................

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ที่ตลาดในหมู่บ้านย่านชนบทแห่งหนึ่ง ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาอย่างพลุกพล่าน เสียงผู้คนพูดคุยต่อรองราคาสินค้าในตลาดเสียงดังเจี๊ยวจ๊าววุ่นวาย
ตามปกติเช่นทุกเมื่อเชื่อวัน และก็เช่นเดิมเฉกเช่นทุกเช้า แม่บ้านสาวสวยวัย 20 ต้น ๆ หอบหิ้วตะกร้าออกมาจ่ายตลาดเช่นเคย ความขาวผ่อง
ของผิวพรรณและหน้าตาสะสวยสะอาดสะอ้านของหญิงสาว ทำเอาเพศตรงข้ามทั้งแก่และหนุ่ม ต้องเผลอแอบชำเลืองมองตามอย่างหลงไหล
เสื้อสีขาวแขนสั้นเผยให้เห็นลำแขนขาวผ่องของสาวชาววัง กระโปรงบานยาวพริ้วไหวตามจังหวะย่างก้าวแลดูน่าหลงไหลยิ่ง
"แม่แตง วันนี้ป้าไม่คิดเงินนะ เอาไปเลย" แม่ค้าหยิบเอาผักชุดใหญ่ใส่ตะกร้าแล้วยื่นให้สาวสวย
"วันนี้ก็ไม่คิดเงินอีกแล้ว ไม่ดีหรอกจ้ะป้า เกรงใจออก" สาวสวยยิ้มหวาน หยิบยื่นเอาเงินให้แม่ค้าผัก แต่ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เผลอมองอยู่
ใกล้ ๆ ใจละลายไปกับรอยยิ้มและน้ำเสียงหวาน ๆ ของเธอคนนี้
"ไม่ต้องหรอก แม่แตง ไม่ต้อง วันก่อนหมอเสือเค้ายังรักษาป้าให้แบบไม่คิดสะตางค์เลยนะ ถือว่าเป็นคำขอบคุณล่ะกัน" ป้าดันมือที่กำเงินไว้กลับไป
"ถ้างั้นก็ ขอบคุณป้ามากเลยนะจ๊ะ" สาวสวยยกมือไหว้อย่างนอบน้อม กิริยามารยาทอันอ่อนหวานของเธอราวกับสาวชาววังก็ไม่ปาน
"จ้ะ จ้ะ ไม่เป็นไรหรอก แหม ทั้งสวย ทั้งมารยาทงามจริง ๆ เล้ย เด็กคนนี้" แม่ค้าผักมองหญิงสาวอย่างชื่นชม

"ป้า ๆ ผู้หญิงคนนั้นลูกบ้านไหนนะ สวยเช้งจริง ๆ" หนุ่มใหญ่ที่ยืนซื้อผักด้วยกันสอบถามหาข้อมูล สาวสวยที่เพิ่งเดินจากไป
"อ้อ นั่นน่ะ แม่แตงอ่อน สวยใช่มั้ยล่ะ ... แต่ว่ามีผัวแล้วนะ ก็หมอเสือนั่นแหละ บ้านอยู่ตรงหัวมุมนี่เอง" ป้าตอบขัดคอหนุ่มใหญ่
"โห มีผัวซะแล้วรึ น่าเสียดายจัง สวย ๆ แบบนี้ น่าอิจฉาผัวหมอเสือนะเนี่ย" หนุ่มใหญ่ทำตาละห้อย ไม่ทันจะได้สานต่อความสัมพันธ์ก็เจออุปสรรคใหญ่
"แต่คู่นี้เหมาะกันดีแล้ว พ่อเสือ เค้าก็เป็นคนดี รักษาคนจนให้ฟรี ๆ แม่แตงรึก็สวยเด่น เป็นบุญของมันทั้งคู่แล้วล่ะ" แม่ค้าผักมองตามร่างอรชร
ของแม่บ้านสาวสวยที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ ด้วยความปลาบปลื้ม พร้อม ๆ กับที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในละแวกนั้นพากันจ้องมองเรือนร่างสมส่วน
ด้วยอารมณ์ถวิลหาแห่งกามารมณ์

......................................................

"อ้าว แม่แตง มาพอดีเลย พี่ตั้งสำรับเสร็จแล้ว พระท่านก็เดินมาโน่นแล้ว มานี่มาตักบาตรกันก่อน" ชายหนุ่มวัยราว ๆ 30 หน้าตาดูมีเมตตา ยืนอยู่
ที่หน้าบ้านกำลังจะตักบาตร ร้องเรียกแตงเมียสาวที่เดินมาถึงบ้านพอดี
"จ้ะ พี่เสือ" สาวสวยส่งยิ้มระรื่นให้สามีสุดที่รักแสนใจบุญของเธอ นอกจากที่เขาช่วยรักษาคนจนให้ฟรี ๆ แล้ว ยังชอบบริจาค ทำบุญอยู่เป็นนิจ
หน้าที่การบ้านการเรือนก็ช่วยเหลือเธอไม่ได้ขาด จนเธอรู้สึกดีใจที่เธอเลือกพี่เสือคนนี้ มากกว่าที่จะไปแต่งเข้าบ้านเศรษฐีมีอันจะกินตามที่ที่บ้าน
ของเธออยากให้เป็น เธอเอาของที่เพิ่งซื้อจากตลาดไปวางไว้ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน แล้วเดินมายืนรอพระภิกษุที่กำลังเดินทางมา
"นิมนต์จ้ะหลวงพ่อ" พ่อเสือและแม่แตง ยกมือพนมไหว้พระภิกษุหน้าตาอิ่มเอิบผ่องใสรูปหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ โดยมีเด็กวัดตัวเล็ก ๆ 1 คน
คอยเดินจูงนำท่านมา เพราะพระภิกษุรูปนี้ดวงตาปิดสนิทอยู่ทั้งสองข้าง พระภิกษุหยุดยืนที่ตรงหน้าหนุ่มสาวด้วยอาการสำรวม แล้วจึงเปิดฝาบาตร
ออกช้า ๆ

"แตง หยิบแกงให้พี่หน่อย" ชายหนุ่มถอดรองเท้า พลางเดินเข้าไปตักข้าวที่กำลังส่งไอน้ำร้อน ๆ พวยพุ่งออกมาเมื่อสัมผัสกับอากาศเย็น ๆ ลงไป
ในบาตรพระที่เปิดฝาแง้มรออยู่แล้ว จากนั้นจึงบรรจงหยิบเอาถุงแกง และขนมหวาน ใส่ตามลงไป แล้วนั่งคุกเข่าพนมมือเพื่อรับพร
"อายุ วรรโณ สุขัง พลัง ...." พระภิกษุกล่าวให้พรด้วยน้ำเสียงแจ่มใส และมีเมตตา พลางส่งยิ้มอันแสนอบอุ่นให้กับชายหนุ่มเบื้องหน้า
"ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ไปงานแต่งงานของโยมทั้งสอง เพราะเป็นช่วงจำพรรษาพอดี" พระภิกษุเอ่ยต่อน้ำเสียงราบเรียบ
"ผมเข้าใจครับ หลวงแม้น ไม่ต้องคิดมากหรอก" ชายหนุ่มเอ่ยตอบด้วยความเข้าใจ แท้จริงแล้ว ก่อนหน้านี้พระภิกษุรูปนี้เคยเป็นเพื่อนรักวัย
เดียวกันกับเขามาก่อนตั้งแต่วัยเด็ก แต่เพิ่งจะแยกจากกันเมื่อสมัยเรียนหนังสือ โดยเขาไปเรียนต่อทางสายแพทย์ ส่วนนายแม้น ที่ประสบเคราะห์
ร้ายจนต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้าง ก็ไปศึกษาพระธรรมและเข้าบวชเรียนมาจนถึงทุกวันนี้
"พวกโยมเหมาะสมกันดีแล้ว ... อาตมาขอให้พวกโยมครองชีวิตคู่กันจนสิ้นบุญล่ะกัน" หลวงแม้นแม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วยสายตา แต่เค้าก็รับรู้ได้ถึง
ความรักอันบริสุทธิ์และอบอุ่นที่ทอประกายออกมาเจิดจ้าได้ หากแต่เมื่อเพ่งจิตมองไปอีกซักพัก ท่านกลับพบว่า มีเงาดำมืดอันชั่วร้ายบางอย่าง
ปรากฎอยู่ในประกายอันเจิดจ้านั้น แต่เมื่อท่านเพ่งมองต่อ ก็กลับพบว่ามันได้อันตรธานหายไปเสียแล้ว

"มีอะไรหรือเปล่าครับ หลวงแม้น??" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นพระภิกษุยืนนิ่งราวกับเห็นอะไรบางอย่างที่น่าตกใจ
"... อาตมา ... " หลวงแม้นไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองเห็นนัก หากแต่เค้าพอจะรับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ ๆ
"... อาตมารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนพวกโยมจะมีเคราะห์ วันนี้พวกโยมไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดกันดีกว่านะ" หลวงพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียง
เป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้แน่ใจตัวเองเท่าไหร่นัก
"มีอะไรหรือจ๊ะ ?" หญิงสาวเอ่ยถาม เธอรู้สึกตระหนกมิใช่น้อย
"อาตมา ก็ไม่แน่ใจนะ แต่เอาเป็นว่า วันนี้พวกโยมก็แวะไปหาอาตมาที่วัดหน่อยล่ะกัน แล้วจะทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้นะ"
"... วันนี้อาจจะไม่ได้ครับ ผมต้องไปรักษาให้ยายที่ท้ายหมู่บ้านก่อน .... งั้นไว้ผมไปหาหลวงแม้นพรุ่งนี้นะครับ" เสือรู้สึกใจไม่ดีนัก แต่ก็ต้องทำหน้า
ที่ไปดูแลคนไข้ก่อน
"ตามสะดวกโยมล่ะกันนะ งั้นอาตมาไปล่ะ" หลวงแม้นเอ่ยบอกพลางพยายามมองหาต้นกำเนิดของเงามืดนั้น หากแต่เขาก็ไม่อาจจะหาพบได้
เลยคิดไปว่าอาจจะเป็นอุปทานไปเอง
"งั้นไว้ผมจะไปหาหลวงแม้น วันพรุ่งนี้นะครับ " ชายหนุ่มยกมือไหว้ส่งหลวงแม้น พร้อมให้คำมั่น โดยไม่รู้ตัวเลยว่าต้นกำเนิดของเคราะห์กรรมอัน
แสนสาหัสนั้น ก็คือคนไข้หนุ่มที่กำลังแอบมองเมียสาวของเค้าอย่างหื่นกระหายจากในบ้านของเขาเอง


.....................................................


"โอ๊ย ๆ หมอเบา ๆ มือหน่อย เจ็บ ๆ" ชายหนุ่มวัย 20 ต้น ๆ ร่างกายบึกบึน นอนดิ้นพราด ๆ ร้องโอดโอยอยู่บนเตียงคนไข้ ขณะที่หมอเสือกำลัง
ทายาบนบาดแผลจากรอยคมมีดที่บริเวณไหล่อย่างเบามือ
"ทนหน่อยนึง ... แผลใกล้หายแล้ว พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ล่ะ วันนี้ก็นอนพักมาก ๆ หน่อย" หมอเสือบอกคนไข้ ที่กำลังร้องโอดโอย
"เออ ไอ้แสง มึงก็ทน ๆ หน่อยซิวะ ร้องโวยวายเหมือนผู้หญิงไปได้" ผู้ชายวัยใกล้เคียงกันอีกคนร้องแซว
"ไอ้เหี้ย ไอ้คง มึงลองมาโดนเองบ้างซิวะ เจ็บนะโว้ย" ไอ้แสงกัดฟันกรอด ๆ ร้องโวยวายใส่ คง ซึ่งเป็นเพื่อนรักและผู้ช่วยของหมอเสือ
"หมอเค้ารักษาให้ฟรี เสือกเรื่องมากอีกนะมึง รู้งี้กูไม่พามาดีกว่า" ไอ้คงเอ่ยยิ้มเยาะใส่เพื่อน เป็นเขาเองที่พาเพื่อนรักคนนี้มาให้หมอเสือรักษาให้
หมอเสือเลยไว้ใจยอมให้ไอ้แสงพักฟื้นที่ห้องพักชั้นล่างของบ้านไม้สองชั้นที่ถูกแปลงสภาพเป็นคลินิคขนาดเล็ก โดยที่เขาและเมียสาวสวยนอน
พักที่ชั้นบน

"นี่จ้ะ พี่เสือ พี่คง แตงจัดของใส่ย่ามไว้พร้อมแล้ว" แตงเดินเข้ามาขณะที่แสงและคง กำลังเถียงสู้กันเสียงดังโวยวาย พลางหยิบยื่นเอาถุงย่าม
ที่บรรจุใส่เครื่องมือแพทย์เบื้องต้นอยู่ข้างในให้กับสามีสุดที่รัก
"ขอบใจจ้ะ แล้วพี่จะรีบไปรีบกลับนะ คงไม่นาน ยังไงก็ปิดประตูบ้านไว้ก่อนล่ะกัน เพื่อความปลอดภัย" เสือรับเอาย่ามมาสะพายไหล่ไว้หลวม ๆ
"จ้ะ ... เอ่อ ..." หญิงสาวเอ่ยด้วยความกังวล เธอรู้สึกกลัวที่จะต้องอยู่ภายในบ้านสองต่อสอง กับคนไข้ที่ชื่อแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้มัน
กำลังจ้องมองดูเธอแบบตาไม่กระพริบจนเธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไป
"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ" เสือเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นความกังวลบนใบหน้าเมียสาว
"มะ ไม่มีอะไรคจ้ะ พี่เสือไปเถอะ เดินทางดี ๆ นะ" หญิงสาวคิดปลอบใจตัวเอง ว่าสามีก็คงกลับมาในเวลาไม่นานนัก น่าจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
"อืม งั้นพี่ไปล่ะนะ" เสือบีบมือแตงแน่น ๆ แล้วเดินออกจากบ้านไป
"งั้นแตงฝากสวัสดียายมีด้วยนะจ๊ะ แกอยู่คนเดียวแถมไม่สบายด้วยน่าสงสารจัง" แม่แตงพูด
"ได้จ้ะ แต่ช่วงหลังแกเริ่มเลอะเทอะแล้ว เอาแต่เพ้อบอกว่าถ้าแกตายไปอยากให้พี่ช่วยรับเลี้ยงลูกสองคนของแกด้วย พี่ก็ตอบตกลงไปงั้น ๆ แหละ"
"แต่ยายมีไม่มีลูกนี่จ้ะ ... เอ ... แต่เห็นแกเคยพูดให้แตงฟังว่า แกเลี้ยงอะไรไว้ด้วยนะ ... อ๋อ รักยม ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า" แตงทำท่าทางครุ่นคิด
"เหลวไหลน่า แกคงจะฟั่นเฟือนไปตามอายุน่ะแหละ" หมอเสือส่ายหน้าด้วยความรู้สึกไม่เชื่อ พร้อมกับเดินออกจากบ้านไปกับนายคงผู้ช่วย
ภายในบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบสงบ มีเพียงแตงสาวสวยประจำหมู่บ้าน อยู่กับคนไข้หนุ่มเพียงสองคน เธอรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแห่งความอึดอัด
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นใช้สายตาโลมเลียเธออยู่อย่างหื่นกระหายแบบไม่รู้จักเกรงใจ

"พะ พี่แสง นอนพักไปนะจ๊ะ แตงจะกลับห้องล่ะ" แม่แตงอ่อนเอ่ยบอกเสียงสั่นด้วยอาการประหม่า ผสานกับความหวาดกลัว ก่อนที่จะเร่งรีบเดิน
เข้าไปด้านในตัวบ้าน
"ผู้หญิงอะไรวะ สวยชิบหาย น่าจับมาทำเมียชิบเป๋ง" ไอ้แสงสบถกับตัวเองเบา ๆ มองตามแตงที่เดินขึ้นบรรไดไม้ส่งเสียงดังเอี๊ยด ๆ หายไป
บนชั้น 2 เมื่อมันจินตนาการถึงใบหน้าสวยใสไร้ริ้วรอย ก็อดที่จะจินตนาการไปถึงเนื้อขาว ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ไม่ได้ เท่าที่มัน
เห็นจากด้านนอก สองเต้าของเธอคนนี้ขนาดไม่ธรรมดา เพราะมันดันเสื้อยืดที่สวมใส่หลวม ๆ ออกมาเป็นก้อนเลยทีเดียว ยิ่งคิดไฟแห่งตัณหา
ก็ยิ่งแผดเผารุนแรงมากขึ้น มันแอบคิดไปไกลจนท่อนควยแข็งตุงเต็มเป้ากางเกง ใจนึงอยากจะปล้ำสาวสวยคนนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด หากแต่อีกใจ
ก็กลัวอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าหมอจะกลับมาเมื่อไหร่ แถมหากแตงโวยวายล่ะก็ คนที่อยู่ข้างนอกก็น่าจะได้ยินเสียงของเธอด้วย ชายหนุ่มคิด
ฟุ้งซ่านอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าที่จะกระทำ จึงได้แต่ใช้มือตัวเองบีบคลำท่อนเอ็นที่กำลังแข็งเกร็งอยู่ในกางเกง จนผลอยหลับไปด้วยฤทธิ์ยาแก้ปวด

................................

ซ่า ซ่า ซ่า

"เหี้ยเอ้ย ใครอาบน้ำวะ" ไอ้แสงงัวเงียรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังอาบ น้ำ ดังมาจากด้านในบ้าน มันรู้สึกหงุดหงิดอย่าง
แรงที่มีคนก่อกวนการหลับอันแสนสุขของมัน มันยกเอาหมอนมาคลุมปิดหน้าของตัวเองแล้วพลิกตัวพยายามข่มตานอนหลับต่อ ... แต่แล้วมัน
ก็นึกขึ้นได้ ว่าตอนนี้มีเพียงมันและแม่แตงสาวสวยที่มันถวิลหาอยู่เพียงแค่สองคน และคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนไปเสียได้
"บุญตากูล่ะโว้ยย" ไอ้แสงดีดตัวผึงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว มันจำได้ดีว่าประตูไม้หน้าห้องน้ำผุ ๆ นั้น มีร่องรูให้มันสามารถมองลอดผ่านเข้าไปด้าน
ในได้ มันเล็งหาโอกาสหลายครั้งแล้ว แต่ก็เพิ่งจะมาสบโอกาสเอาวันนี้ มันรีบเดินไปทางห้องน้ำอย่างเงียบกริบ ก่อนที่จะแนบตาเข้ากับรูโหว่เล็กๆ
บนประตูไม้เก่า ๆ ผุ ๆ
"อูยยยย สวยจริง ๆ โว้ย" ไอ้แสงสบถออกมาเบา ๆ ภาพที่ปรากฎอยู่ในห้องน้ำ ทำเอามันแทบลืมหายใจ แสงไฟสีเหลืองอ่อนจากหลอดไส้เก่า ๆ
สาดส่องกระทบกับเรือนร่างเปลือยขาวโพลนของหญิงสาวที่อยู่ในห้องน้ำ หยดน้ำใส ๆ ที่เกาะติดอยู่ตามตัวของเธอสะท้อนแสงไฟจนดูเป็น
ประกายส่องแสงวาววับมากยิ่งขึ้น สองมือเล็ก ๆ ของเธอบรรจงลูบไล้ไปทั่วร่างเพื่อขัดถูคราบไคลสกปรกออกไปจากร่างกาย โดยไม่รู้เลยว่า
กำลังโดนชายหนุ่มกลัดมันจ้องมองดูอยู่อย่างเงี่ยนร่าน

"นมใหญ่จริง ๆ ด้วย ซี้ดสสส อยากดูดโว้ยยย" ไอ้แสงเลียลิ้นรอบปากตัวเองอย่างกระสัน เมื่อแตงกำลังใช้มือเล็ก ๆ ของเธอลูบไล้ไปมาที่ทรวง
อกอวบใหญ่จนล้นมือทั้งสองข้าง เต้านมเต่งตึงสวยได้รูปเด้งไปมาตามแรงลูบไล้แลดูน่าหวาดเสียว
"อุ๊ยยย อืมมม" แตงส่งเสียงร้องสะดุ้งด้วยความเสียวเบา ๆ เมื่อมือของเธอไปสะดุดเข้ากับหัวนมสีชมพูสวยเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ความเสียวที่
แล่นแปลบทำเอาหัวนมที่ยังอ่อน ๆ อยู่เมื่อกี้นี้เริ่มแข็งเป็นเม็ดขึ้นมา เธอเอามือไปเน้นบีบคลึงเบา ๆ ที่หัวนมของเธอเองอย่างเสียวซ่าน
"ร่านใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า อีแตง" ไอ้แสงพูดเบา ๆ ควยอันใหญ่แข็งเกร็งเต็มเป้ากางเกงจนแทบระเบิดออก มันนึกอิจฉาหมอเสือ ที่ได้ดูดดุน
ลิ้มชิมรสอกอวบสวยนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ความเงี่ยนที่ไม่อาจจะทานทนได้ ทำให้มันต้องรูดกางเกงขาสั้นลงไป แล้วเอามือไปรูดกำท่อนเอ็นอย่าง
สะใจในอารมณ์
"บ้าจัง ทำอะไรเนี่ยเรา ...อืมมม" แตงบ่นออกมาเบา ๆ รู้สึกเขิน ๆ ตัวเองเล็กน้อย ที่กำลังทำอะไรแปลก ๆ อยู่ หากแต่ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้น
ทำให้เธอไม่อยากหยุดการกระทำนี้ซักเท่าไหร่นัก สองมือเริ่มบีบเคล้นสองเต้าอวบของตัวเองหนักมือขึ้น พร้อมกับใช้ปลายนิ้วเขี่ยวนรอบหัว
นมที่กำลังแข็งเป็นเม็ดไปมาไม่หยุด อารมณ์และความต้องการเริ่มพาเธอเข้าสู่ห้วงแห่งกามารมณ์

"อุ๊ยยย" แตงสะดุ้งตัว เมื่อมือข้างหนึ่งของเธอเลื่อนไล้ผ่านเอวคอดกิ่วลงไปด้านล่างสัมผัสเข้ากับกลีบเสียวของตัวเอง
"ซี้ดดด อีแตงเอ๊ย หม้อใหญ่อะไรอย่างงี้วะ" ไอ้แสงยิ่งออกแรงรูดท่อนควยแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นมือของสาวสวยกำลังลากไล้ผ่านรอยแยก
กลางลำตัวสีขาวผ่อง โดยมีเส้นขนสีดำบาง ๆ ปกคลุมอยู่อย่างเป็นระเบียบสวยงาม กลีบแคมทั้งสองข้างของเธอยังค่อนข้างปิดสนิท แม้ว่าจะผ่าน
การใช้งานกับผัวมาไม่น้อย
"อูยยยยยย" แตงร้องครางเสียงยาวตัวสั่นระริก ๆ เมื่อนิ้วเรียวยาวของเธอสอดผ่านกลีบแคมทั้งสองเข้างเข้าไปสัมผัสเข้ากับเม็ด แตดที่อยู่ด้านใน
ด้วยความเสียวซ่านอันรุนแรง ทำเอาเธอกางขาแยกออกจากกันกว้างขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เพื่อให้สามารถสอดมือตัวเองเข้าไปสัมผัสกับติ่งเสียวได้
อย่างถนัดมือ และนั่นก็ทำให้ไอ้แสง สามารถมองเห็นโหนกนูนอวบใหญ่ได้อย่างเต็ม ๆ ตา

"อะ อูยยยย เราทำอะไรอยู่เนี่ย แต่ อุ๊ยยยย อืมมม รู้สึกดีจัง ..." ด้วยความเป็นกุลสตรี เธอรู้สึกว่ากำลังทำสิ่งที่น่าอับอายอยู่ หากแต่ด้วยความที่
ไม่ได้ร่วมรักกับสามีมานานหลายวัน เพราะมีคนไข้มาพักอยู่ที่ชั้นล่าง อารมณ์ความอยากของเรือนร่างสาววัยร้อนทำเอาเธอหยุดตัวเองไม่อยู่
เธอชิดหน้าหลับตาพริ้มรับความเสียวอย่างเต็มใจ มือข้างหนึ่งบีบคลึงเต้าอวบอย่างรุนแรงตามระดับอารมณ์เสียว ส่วนอีกข้างก็ใช้ปลายนิ้วบี้วน
ไปมาเป็นวงกลมรอบ ๆ ติ่งเสียว สะโพกผายส่ายเด้งย้ายไปมาตามอารมณ์ร่านราวกับกำลังยั่วเย้าชายหนุ่ม
"อืมมมมม ดีจัง อูยยยยยย" หญิงสาวรู้สึกแข้งขาอ่อนแรง จึงทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นห้องน้ำ สองขาอ้าถ่างออกจนสุด นิ้วมือยังคงทำหน้าที่เร่งเร้า
อารมณ์อย่างไม่ขาดสาย น้ำเสียวไหลทะลักออกมาจากร่องหลืบไหลย้อยตามเนื้อขาว ๆ ลงไปบนพื้น มือของเธอขยับเร็วและแรงขึ้นเรื่อย ๆ
"โอ๊ะ อะ อ๊าาาา อู๊ยยยยยยยยยย" ในที่สุดสาวสวยก็ทานทนความเสียวซ่านไม่ไหว ร่างกายของเธอกระตุกสั่นสะท้านรุนแรง กล้ามเนื้อทั่วตัวบิด
เกร็งรับความเสียวขั้นสุดยอด เธอปล่อยตัวลงไปนอนราบกับพื้นห้อง สองขายันพื้นแอ่นส่งโคกนูนส่ายร่อนไปมาในอากาศสุดตัว น้ำใส ๆ ฉีด
ทะลักกระจายออกมาจากร่องรูราวกับท่อประปาแตก

"กูก็ไม่ไหวแล้วโว้ย" ไอ้แสงที่แอบดูฉากร้อนแรงของสาวสวยที่ดูเรียบร้อยก็ถึงที่สุดไปพร้อม ๆ กัน มันเร่งมือรูดท่อนเนื้อลำเขื่องของตัวเองเข้า
ออกอย่างรุนแรง ก่อนที่จะแอ่นตัวฉีดเอาน้ำขาวข้น ไปกระทบเข้ากับประตูห้องน้ำอย่างจัง แล้วทรุดตัวลงไปนั่งหอบหายใจหนักหน่วงด้วย
ความเหนื่อยกับพื้น ปล่อยให้น้ำเชื้อที่เกาะอยู่ที่ประตูมันไหลหยดย้อยลงไปเป็นทางตามแรงดึงดูดของโลก แม้ว่าจะเพิ่งปลดปล่อยความอยาก
ออกมาก็ตาม แต่ไอ้แสงชายหนุ่มกลัดมัน ยังคงไม่รู้สึกพอใจ ภาพที่มันเพิ่งได้เห็น ทำให้ความอยากอยู่เหนือเหตผลและความกลัวใด ๆ แล้ว
มันแอบคิดเข้าข้างตัวเองในใจ ไหน ๆ แม่แตงก็เงี่ยนขนาดนี้แล้ว ก็ให้มันช่วยคลายเงี่ยนให้เธอดีกว่า

มันอดใจรอไม่นานนัก ประตูห้องน้ำก็เปิดอ้าออก ร่างอวบอัดของแม่แตงสาวงามประจำหมู่บ้านก็ก้าวเดินออกมาในสภาพที่มีผ้าถุงและผ้าเช็ดตัว
ปิดคลุมอย่างมิดชิด เธอเบิกตาลุกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยมัด
กล้ามเนื้อตามแบบฉบับกรรมกรชนชั้นใช้แรงงานซึ่งบึกบึนน่ากลัว ที่ด้านล่างท่อนเอ็นของมันแข็งเกร็งแถมยังยาวใหญ่มาก มันใหญ่กว่าของสามี
ของเธอมากแบบเกือบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
"ว้าย... ช่วย ... อุ๊บบบบบ อื้ออออ" เธอรับรู้ได้ถึงเจตนาร้ายของชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า ไวเท่าความคิดเธอคิดจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา แต่มือ
ของชายหนุ่มไวกว่า เค้าเอามือมาปิดปากของเธอไว้ได้ทัน พร้อมกับดันเอาร่างงามกลับเข้าไปในห้องน้ำ สรวงสวรรค์ของมันอยู่แค่เอื้อมแล้ว
"มึงเงี่ยน ขนาดนี้ ก็ให้กูช่วยมึงคลายเงี่ยนล่ะกันนะ อีแตงเอ้ย" ไอ้แสงพูดอย่างหื่นกระหาย

"อื้ออออ ... อย่า ... อื้ออออ" สาวสวยร่างบางดิ้นรนสุดแรงเพื่อต่อต้านสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น สองมือเล็ก ๆ ออกแรงปัดป่ายท่อนแขนกำยำที่ปิดปากของ
เธออยู่ให้หลุดออกไป แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอ เทียบไม่ได้เลยกับความหื่นกระหายและกำยำ
แข็งแรงของหนุ่มรุ่นน้องที่อ่อนกว่าเธอราว ๆ 3-4 ปี เพียงชั่วครู่ร่างบอบบางของเธอ ก็โดนกดไปจนติดกับกำแพงห้องน้ำ
"อย่าดีดดิ้นน่า เรามามีความสุขด้วยกัน ถ้ามึงขัดขืน เดี๋ยวกูจะทำให้เสียโฉมซะเลย" ไอ้แสงควักเอามีดเล่มใหญ่ที่ตระเตรียมไว้ออกมา มันปาดสัน
มีดไปกับใบหน้าสวยเพื่อข่มขู่เหยื่อสาวสวย
"อื๊อออออ ..... อื๊อออ" แม่แตงที่รับรู้ถึงความเย็นเยียบอันไร้น้ำใจของโลหะในมือชายชั่ว แสดงแววตาหวาดกลัวออกมาชั่วแว้บนึง ก่อนที่จะตัดสิน
ใจออกแรงดิ้นรนขัดขืนการกระทำของมันต่อ เธอกลัวที่จะต้องเสียสาวให้คนอื่นมากกว่าการเสียโฉม หากแต่ก็ทำได้แค่ดิ้นขลุกขลักติดอยู่กับ
กำแพงเหมือนเดิมเท่านั้น

"อีนี่ ฤทธิ์เยอะนัก .... ถ้ามึงขัดขืน เดี๋ยวผัวมึงกลับมา กูจะเชือดผัวมึง" ไอ้แสงสบถบ่นออกมาด้วยความโกรธที่โดนขัดใจ แต่ไม่นึกว่าคำขู่จะได้ผล
".........." แม่แตงอ่อนเบิกตาลุกวาวด้วยความตกใจ เธอยินดีรักษาศักด์ศรีลูกผู้หญิงของเธอด้วยชีวิต หากแต่เธอไม่ยินยอมที่จะแลกกับชีวิตของ
ชายหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจแน่ ๆ ร่างงามหยุดดิ้นรน เธอจ้องมองแววตาหื่นกระหายของไอ้แสง เหมือนจะร้องขอความเมตตาจากมันแทน
"เออ อย่างนี้แหละดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว มึงห้ามร้องล่ะ" ไอ้แสงกรรมกรหนุ่มปล่อยมือออกจากปากของสาวสวย ตอนนี้เธอยืนนิ่งไม่ดิ้นรน
ขัดขืนมันอีกแม้แต่นิดเดียว ไอ้แสงรีบเดินไปปิดประตูห้องน้ำ เพราะกลัวว่าถ้ามีใครกลับมาก่อน มันจะอดแดกสาวสวยประจำหมู่บ้านคนนี้
"เมื่อครู่ กูเห็นหมดแล้ว ตอนที่มึงตกเบ็ดแก้เงี่ยนในห้องน้ำ ทำเอากูเงี่ยนไปด้วยเลยเห็นมั้ย" ไอ้แสงเดินมายืนประจันหน้ากับสาวสวยที่ตัวสั่นระริก
ด้วยความกลัว มันควักท่อนเอ็นที่กำลังพองโตเต็มที่ออกมารูดถอกโชว์ให้เธอดู สาวสวยที่กำลังหวาดกลัว แอบเผลอเหลือบมองตามเจ้าท่อนเอ็น
ด้วยค

*

เรื่องเสียว

  • อ่านเรื่องเสียวหีประสบการณ์เย็ดxxx
  • **
  • 94
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
เย็ดหีเสียวกันปะ